top of page

Search Results

พบ 134 ผลลัพธ์เมื่อไม่ระบุค่าการค้นหา

  • คาร์แชร์ริ่งช่วยลดจำนวนรถได้...จริงหรือไม่ ?

    เรื่องที่เราเคยกังวลกันว่า “โมเดลคาร์แชร์ริ่งช่วยลดจำนวนการใช้รถลงนั้น ไม่มีหลักฐานรองรับ” ตามที่ Greg Archer เคยเขียนไว้ แต่ในปัจจุบันนี้ โลกยุคดิจิตอล และรูปแบบเศรษฐกิจแบบแชร์ริ่งได้สร้างโอกาสที่จะช่วยลดจำนวนยานพาหนะในเมืองให้ยิ่งน้อยลงไปอีก รถส่วนใหญ่ที่ทุกคนใช้กัน ในเวลาวันหนึ่ง 24 ชั่วโมงผู้คนใช้รถจริงๆเพียงแค่ 10% หรือประมาณ 2.5 ชั่วโมงเท่านั้น และในการครอบครองรถคันหนึ่งนั้น โดยเฉลี่ยแล้วจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเข้ามาอีก 260,000 บาทต่อปี (6,500 ยูโร) ที่จะถูกใช้ไปเป็นค่าใช้จ่ายในการครอบครองรถคันหนึ่ง โดยรถแต่ละคันจะต้องการพื้นที่ 150 ตารางเมตรตเพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการจอด แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น การจราจรที่ติดขัดนั้นยังทำให้เศรษฐกิจของยุโรปต้องใช้เงินกว่า 4แสนล้านบาท (1หมื่นล้านยูโร) ต่อปีในการจัดการ ภาพของรถยนต์ส่วนตัวที่สื่อความสะดวกสบายแห่งศษตวรรษที่ 20 ดูเหมือนจะสลายหายไปด้วยความนิยมในไอเดียของการมีตัวรถเอง ในปัจจุบันโลคเทคโนโลยี และโมเดลแชร์ริ่งนั้นทำให้เกิดโอกาสที่จะลดจำนวนยานพาหนะในเมืองของเราลงได้อย่างมาก และช่วยลดไม่ว่าจะเป็นมลพิษ อุบัติเหตุ การจราจรที่ติดขัดที่เกิดจากการมีจำนวนรถในครอบครองและใช้มากเกินไปบทท้องถนน หนึ่งในการวิจัยจากสหรัฐอเมริกาได้ชี้ให้เห็นว่า จำนวนรถที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันอาจลดได้ถึง 1 ใน 3 ของทั้งหมดหากโมเดลคาร์แชร์ริ่ง ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวาง และผลวิจัยอีกชิ้นหนึ่งจากลิสบอน แสดงให้เห็นว่า รถที่วิ่งอยู่บนท้องถนนจะลดจำนวนเหลือเพียง 10% เท่านั้นถ้าหากมีการแชร์รถกันใช้ แต่การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่คาร์แชร์ริ่งอย่างสมบูรณ์ไม่ใช่เรื่องง่าย ตราบใดที่รถยนต์ส่วนตัวและรถที่แชร์กันเริ่มแก่งแย่งพื้นที่ที่เหลือและการใช้งานทำให้เกิดประโยชน์อยู่พอตัว อย่างไรก็ตาม จุดมุ่งหมายท้ายสุดของเราคือการนำเอาพื้นที่คืนจากการยึดครองด้วยรถยนต์บนท้องถนนแล้วล่ะก็ จะทำให้คุณภาพชีวิตของคนเมืองดีขึ้นอย่างแน่นอน ข้อกังวลหรือข้อกังขาที่ว่าแชร์ริ่งโมเดลจะไม่ทำให้เกิดการลดลงของการใช้้รถยนต์ส่วนบุคคลนั้น มีหลากหลายเหตุผลมากมายมาหักล้างที่แสดงให้เห็นว่า แอพฯไรด์แชร์ริ่งช่วยให้มีการใช้รถบนท้องถนนน้อยลง และการขับขี่น้อยลงด้วย แต่ที่สำคัญคือ แอพฯดังกล่าวกำลังช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนให้ไปใช้รูปแบบการเดินทางโดยสารที่หลากหลายมากขึ้น ที่อาจใช้แทนที่รถโดยสารสาธารณะ หรือรูปแบบแอคทีฟ (เดิน ปั่นจักรยาน) รูปแบบของคาร์แชร์ริ่ง, ไม่ว่าจะเป็นแบบจากจุดหนึ่งไปจอดอีกจุดหนึ่ง หรือแบบราวด์ทริป หนึ่งคันจะช่วยให้ไปลดการใช้ใช้รถยนต์ส่วนตัวน้อยลงถึง 5-15 คัน การใช้บริการคาร์แชร์ริ่งในการเดินทางไกลนั้นสามารถใช้แทนการเดินทางด้วยระบบการขนส่งด้วยราง นอกจากนั้นตัวรถคันเดียวกันนั้นเองก็จะมีคนนั่งเยอะขึ้น ช่วยลดปริมาณคาร์บอนในอากาศที่ปล่อยออกมาต่อกิโลเมตเมื่อเทียบกับรถรางอีกด้วย อย่างไรก็ตามหลักฐานที่ให้ข้อสรุปได้กล่าวถึงมานั้นยังคงขาดความเสรีและแหล่งยืนยันข้อมลูเหล่านี้ไม่อาจสามารถมองเห็นได้หรือสัมผัสได้ ว่าได้ข้อมูลเหล่านี้มาได้อย่างไร และการศึกษาวิจับในเรื่องผลกระทบจากการใช้คาร์แชร์ริ่งยังคงขาดมาตราฐานที่จะใช้วัดผลของการ์แชร์รถกันใช้เพราะผลที่เห็นหรือเกิดขึ้นก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละเมือง. การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับคาร์แชร์ริ่งนั้นจำเป็นที่จะต้องพัฒนาเพื่อที่จะวิเคราะห์ วิจัยข้อสิ่งที่บริษัทกล่าวอ้างเกี่ยวกับคาร์แชร์ริ่งได้อย่างเสรี หลักฐานที่พบยังแสดงให้เห็นอีกว่าช่วงระยะเวลาการย้ายไปใช้รถแชร์ ที่จะต้องมีการแก่งแย่งพื้นที่และประโยชน์กับรถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อให้ขั้นตอนการเปลี่ยนมาใช้คาร์แชร์ริ่งง่ายและเร็วขึ้น จะต้องมีการจำกัดการครองถนนของรถที่มีอยู่ก่อนออกไปให้ได้ก่อน โดยมี 4 ขั้นตอนดังนี้ ก่อนอื่น จะต้องมีการเก็บหรือขึ้นราคาการใช้รถยนต์ส่วนตัวบนไฮเวย์ โดยคิดเงินในราคาที่ต่างกันโดยคิดราคารถที่แชร์กันใช้ให้เก็บราคาถูกกว่า และยกเว้นการคิดราคาดังกล่าวกับรถยนต์สาธารณะ ต่อมา บรรดารถที่ทำให้เกิดผลพิษในอากาศสูง จะต้องถูกจำกัดการใช้หรือแบนจากเมือง และผู้ขับขี่รถยนต์เหล่าอาจมีเงินก้อนให้เพื่อแลกกับการสละหรือเลิกใช้รถนั้นเพื่อมาใช้รถสาธารณะหรือรถยนต์แชร์ ปัจจุบัน ในยุโรปมีรถที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล ประมาณ 35 ล้านคันที่ทำให้เกิดมลพิษในอากาศเกินกำหนดอยู่ จากเหตุดังกล่าวทำให้ประชากรกว่า 500 ล้านคนต้องเสียชีวิตลงก่อนวัยอันควร จากภาวะอากาศเป็นพิษ จำเป็นจะต้องมีระเบียบการลดจำนวนที่จอดรถที่มีอยู่เกินความจำเป็นลงตามสถานที่ต่างๆในเมือง หากมีที่จอดรถมาก ก็จะมีผู้คนขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลมากขึ้น และเมืองที่มีการเพิ่มที่จอดมากขึ้นจะประสบกับส่วนแบ่งของการเดินทางด้วยรถยนต์ที่มากขึ้น เมื่อรถยนต์ที่จอดตามข้างทางลดลง พื้นที่เหล่านั้นก็จะถูกนำมาใช้เพื่อเป็นช่องทางสำหรับเลนรถโดยสารสาธารณะ หรือจักรยาน, ทางเดินเท้าที่กว้างขึ้น, จุดจอดเพื่อรับส่งที่มีการจัดระเบียบสำหรับคาร์แชร์ริ่งที่ใช้ร่วมกันหรือสำหรับคนอื่นๆที่เน้นไปในเรื่องของการพัฒนาตัวเมือง ข้อสุดท้ายนั้น เราจะต้องมีการกำหนดออกกฎหมายเพื่อรองรับและให้สิทธิ์ แก่นวัตกรรมใหม่ๆ และทำให้แน่ใจว่า ภาระหน้าที่ในการตั้งกฎจะไม่ตกเป็นของบริษัทที่ให้บริการ และบริษัทที่ให้บริการที่มีขึ้นมาใหม่จะต้องขยายมาตราส่วนของบริษัทให้มีเพียงพอต่อความต้องการที่จะมาเพื่อทดแทนจำนวนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลอย่างมหาศาลที่วิ่งอยู่ในเมือง ผู้ให้บริการรถสาธารณะได้มีเวลากว่าศตวรรษที่จะต่อกรกับรถยนต์ส่วนบุคคล แต่ก็ไม่ได้ประสบผลสำเร็จเท่าไรนัก คงถือได้ว่าเป้นการพลาดโอกาสที่สำคัญยิ่ง หากภาระการกำหนดกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมทำการเกิดใหม่ของผุ้ให้บริการการเดินทางบริษัทใหม่ๆ อยู่ในสถานะกึ่งเกิดอยู่อย่างนั้น และสถาณการณ์เดียวกันยิ่งผลักดันให้การครอบของถนนของรถยนต์่วนตัวเติบโตขึ้นในเมืองของเราเพิ่มขึ้นไปอีก โดย Greg Archer, ผู้อำนวยกาย CVD (clean vehicle director) และ Barboda Bondovora นักวิจัยแห่ง Clean Transport NGO T&E

  • กรุงโซล ส่งเสริมบริการ Carsharing and Bikesharing

    กรุงโซลส่งเสริมบริการแบ่งปันจักรยานและรถยนต์ (Bike and Car Sharing) ตามโครงการอพาร์ทเมนท์ รัฐบาลกรุงโซลประกาศแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการแบ่งปันระบบสาธารณูปโภคสาธารณะในอาคารอพาร์ตเมนต์เพื่อกระตุ้นการพัฒนาชุมชนที่มีส่วนร่วม โครงการ หมู่บ้านแห่งการแบ่งปัน (Sharing Village) ซึ่งเป็นโครงการปรับโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของกรุงโซลโดยจะมีจุดบริการจักรยานและรถร่วมซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วเมืองสร้างขึ้นในจุดเดียวกันเพื่อความสะดวกสบายสร้างสถานที่ที่คล้ายกับชื่อ 'หมู่บ้านแห่งการแบ่งปัน' การสมัครเข้าร่วมโครงการจะมีจนถึงวันที่ 12 กรกฎาคม ผู้อยู่อาศัยที่ประสงค์จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "หมู่บ้านแห่งการแบ่งปัน" สามารถยื่นใบสมัครไปยังสำนักงานเขตพื้นที่ท้องถิ่นหลังจากตกลงกับผู้อยู่อาศัยคนอื่น ๆ โดยจะมีเพียงหนึ่งหรือสองตึกที่คาดว่าจะได้รับการคัดเลือก สำหรับโครงการนำร่อง ชุมชนที่ได้รับการสนับสนุนจาก "หมู่บ้านแห่งการแบ่งปัน" จะเห็นว่ามีพื้นที่ใช้จ่ายประมาณ 50 ล้านวอนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจร่วมกัน (sharing economy infrastructure) เพื่อให้บริการต่างๆร่วมกันซึ่ง ได้แก่ จักรยาน ตู้เย็น หรือแม้กระทั่งการดูแลเด็ก ขึ้นอยู่กับประเภทของครัวเรือนในชุมชนที่ได้รับเลือกในปีพ. ศ. 2555 กรุงโซลประกาศตัวว่าเป็นเมืองแห่งการแบ่งปัน (sharing city) และในปี พ.ศ. 2556 กลายเป็นเมืองแรกในประเทศที่ออกกฎหมายเพื่อส่งเสริมการเศรษฐกิจแบ่งปัน (sharing economy) เจ้าหน้าที่ภาครัฐของกรุงโซลกล่าวว่า "เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจแบ่งปันจะกลายเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่นในการพัฒนาชีวิตของชาวเกาหลีใต้” ที่มา: http://koreabizwire.com/seoul-to-promote-bicycle-and-car-sharing-services-at-apartment-complexes/86484 #carsharing #bikesharing

  • ไว้พระเก้าวัดไปกับHaupcar @อยุธยา

    วันอาสาฬหบูชานี้ ถ้ายังไม่รู้ว่าจะไปไหนดี ขับฮ้อปคาร์ไปเพียง 1 ชม. จากกรุงเทพฯ เรามีแผนการเดินทางไว้ให้แล้ว เพียงแค่เช่ารถแล้วออกเดินทางได้เลย! #CarSharing #เที่ยวทั่วไทยไปกับฮ้อป #คาร์แชร์ริ่ง

  • จุดเริ่มต้นของคาร์แชร์ริ่ง (That's why we build carsharing)

    Carsharing (คาร์แชร์ริ่ง) คือ การบริการรถเช่ารูปแบบหนึ่งที่ผู้เช่าสามารถเช่าเป็นรายชั่วโมงได้ โดยสมาชิกของผู้ให้บริการ carsharing จะทำการจองรถยนต์ผ่านทางแอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ และสามารถเดินทางไปหาจุดที่มีบริการ carsharing ใกล้ๆ ทางสมาชิกสามารถเปิดรถยนต์โดยใช้ บัตรสมาชิกแตะที่กระจกหน้าของรถยนต์หรือเปิดผ่านแอปพลิเคชั่นใน smartphone ส่วนการเก็บค่าบริการนั้น ทางสมาชิกจะโดนเรียกเก็บเงินผ่านทางบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับแอปพลิเคชั่นผู้ให้บริการ carsharing หลังจากการใช้งานในแต่ละครั้ง Haupcar (ฮ้อปคาร์) ผู้ให้บริการคาร์แชร์ริ่งแห่งแรกของประเทศไทยมองว่าถึงแม้ความพร้อมในประเทศไทยจะยังไม่เท่ากับในต่างประเทศ ตอนนี้อยู่ในช่วงที่ carsharing จะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นเห็นได้จาก จำนวนการเติบโตของคอนโด การเติบโตของการใช้ BTS/MRT ที่จะส่งผลให้คนส่วนใหญ่เริ่มที่จะเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น เมื่อความจำเป็นในการใช้รถเริ่มหดหายไป ความต้องการใช้รถในเพียงไม่กี่ครั้งต่อเดือนจึงเหมาะกับการแชร์รถกันใช้ โทรศัพท์จากนั้นก็สามารถไปที่รถได้ทันที โดยปลดล็อครถผ่านแอปพลิเคชั่นหรือคีย์การ์ด ได้โดยไม่ต้องใช้หรือรอรับกุญแจรถ สามารถจองใช้งานได้ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงไปจนถึงเจ็ดวัน ฮ้อปคาร์จะทำให้เกิดความรู้สึกสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานเสมือนมีรถเป็นของตัวเอง ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานรถได้เฉพาะยามที่ต้องการ และไม่จำเป็นต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆที่จะตามมากับรถอีก ผู้คนที่อยู่อาศัยในเมืองได้รับประโยชน์มากมายจากการมี carsharing ซึ่งสามารถแบ่งออกได้หลักๆตามนี้ การไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของรถยนต์อีกต่อไป ถึงแม้ว่าการครอบครองรถยนต์จะเป็นสัญลักษณ์ของความอิสระและพึ่งพาตนเองได้ แต่ที่จริงแล้ว ผู้บริโภคจะใช้งานรถเฉลี่ยเพียงสัปดาห์ละไม่กี่ครั้ง ผู้บริโภคสามารถหันมาใช้ carsharing เมื่อยามจำเป็นในราคาที่เฉลี่ยแล้วประหยัดกว่าการซื้อรถมาใช้ การเป็นเจ้าของรถนำมาซึ่งภาระและค่าใช้จ่ายที่สูง เช่น ค่าน้ำมัน ค่าใช้จ่ายในการดูแลบำรุงรักษา ค่าประกันรถยนต์ ค่าจอดรถ หรือแม้กระทั่งค่าล้างรถ ซึ่งค่าใช้จ่ายพวกนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นตลอดอายุการใช้งานของรถ การหันมาใช้ carsharing แทนจะทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง กลายเป็นจ่ายเพียงครั้งๆ และคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง ปัญหารถที่จอดรถในเมืองจะน้อยลงเมื่อคนหันมาใช้ carsharing มากขึ้น รถยนต์หนึ่งคันในหนึ่งที่อยู่อาศัยสามารถแบ่งกันใช้งานได้มากถึง 40-50 คน หากอนุมานว่าทุกคนมีรถใช้นั้นหมายความว่าปริมาณรถจะหายไปจากเกือบ 50 คันเลยทีเดียวและเหลือเพียง 1-3 คัน ตามพฤติกรรมการใช้รถของผู้อยู่อาศัยในตึก เมื่อจำนวนคนที่ใช้รถลดลง ทำให้ปริมาณรถในเมืองมีแนวโน้มที่จะลดลงตามและการเดินทางด้วยรถยนต์จะติดน้อยลง หากมองออกมาในภาพที่ใหญ่ขึ้น เมื่อเมืองที่เราอาศัยอยู่มีปริมาณการใช้งานของรถยนต์น้อยลง สิ่งอำนวยความสะดวก ต่างๆที่ทำมาเพื่อรถยนต์เช่น ถนน หรือ ที่จอดรถ ก็จะถูกแทนที่ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่สร้างมาเพื่อให้ประโยชน์กับผู้คนมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า หรือแม้กระทั้ง ทางเท้าที่กว้างขึ้นและเลนสำหรับจักรยาน มาถึงตรงนี้ผู้อ่านคงจะสงสัยว่า แล้วฮ้อปคาร์ต่างอะไรจากบริการรถเช่าเจ้าอื่นๆที่มีอยู่แล้วในประเทศไทย สิ่งนั้นคือเทคโนโลยีที่นำมาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ เพียงส่งข้อมูลใบขับขี่ บัตรประชน และ บัตรเครดิตเพียงครั้งเดียวขณะลงทะเบียนเพื่อใช้งานทางแอปพลิเคชั่น เมื่อถึงเวลาต้องการใช้งาน เพียงเลือกจุดที่จะเช่ารถผ่านแอปพลิเคชั่นใน

  • ฝนตกแล้ว ! ขับรถยังไงให้ปลอดภัย

    ช่วงนี้เข้าฤดูฝนกันแล้ว ทุกท่านคงเคยประสบปัญหาเรื่องการขับรถท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก วันนี้ฮ้อปร์คารมีเทคนิคง่ายๆในการขับรถระหว่างฝนตกมาฝาก ข้อที่ 1) เมื่อฝนตกลงมาแล้ว อย่าลืมเปิดที่ปัดน้ำฝนพร้อมไฟหน้ารถและหลังรถเพื่อช่วยในการมองเห็นเวลาขับรถ ข้อที่ 2) ชะลอความเร็วเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ซึ่งระดับความเร็วที่ทำให้รถไม่เกิดการลื่นไถลคือ 60 ก.ม/ช.ม ข้อที่ 3) ควรเว้นระยะห่างจากคันหน้ามากกว่าการขับขี่ในช่วงปกติ 10-15 เมตร เพื่อให้สามารถหยุดรถได้ทันในสภาพถนนที่เปียกลื่น ข้อที่ 4) อย่าหลบรถกะทันหันให้ใช้ตาประเมินสภาพความลึกของแอ่งน้ำ และชะลอเพื่อขับผ่านแอ่งน้ำ ถ้าแอ่งน้ำลึกให้เปลี่ยนทิศทางหลบแอ่งน้ำ ข้อที่ 5) หาที่จอดรถทันทีถ้าไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจน เพียงทำตาม 5 ข้อนี้ เพียงผู้อ่านทำตามนี้ รับรองคุณจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากฝนตกได้เยอะมากเลยทีเดียว

  • มาเรียนรู้ function ใหม่ใน application ที่จะทำให้คุณจองรถได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น

    ด้วย function ง่ายๆตัวใหม่ของฮ้อปคาร์ คุณสามารถหาเวลาที่ว่างของรถฮ้อปคาร์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องเปลี่ยนเวลาอีกต่อไป เพียงกดปุ่ม Find next available -> Check now ระบบจะจัดการหาเวลาว่างของรถที่ใกล้ที่สุดสำหรับคุณ

  • Ananda Urban Tech Meetup #1 : Mobility and Autonomous Vehicles

    ภาพบรรยากาศงาน Ananda Urban Tech Meetup #1: Mobility and Autonomous Vehicles ที่เกิดขึ้นในเมื่อวันศุกร์ที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา นอกจากจะได้แลกเปลี่ยนความรู้ด้านยานยนต์แห่งอนาคต และ Urban Tech เทคโนโลยีเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างเข้มข้นแล้ว ยังได้สนุกสุดเหวี่ยงใน After Party อีกด้วย! ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวจาก 'Ananda Development' ที่เปิดโลกยนตรกรรมสู่การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อชีวิตที่ดีกว่าได้อย่างน่าประทับใจ ติดตามมีทอัพสุด Exclusive ครั้งใหม่ ที่จะสร้างสีสันให้วงการเทคโนโลยีได้เร็วๆ นี้

  • อยากไปที่ไหน ฮ้อปไปได้

    ทำความรู้จัก UrbanTech โซลูชั่นที่ช่วยให้ชีวิตคนเมืองสะดวกสบายมากขึ้น ในสภาพสังคมคนเมืองที่เร่งรีบต้องแข่งขันกับเวลา โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่ต้องตื่นเช้า และรีบออกไปถึงที่ทำงานให้ทันเวลา ด้วยสภาพงาน การใช้ชีวิตต่างๆ ตลอดทั้งวัน ต้องเจอกับสภาวะความเครียด ถ้ามีโซลูชั่นที่ช่วยแก้ปัญหาในแต่ละจุด ช่วยอำนวยความสะดวก ให้ชีวิตง่ายขึ้น ก็คงจะดีไม่น้อย กลุ่มเทคโนโลยีเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหา และทำให้คุณภาพชีวิตของคนเมืองดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัย รวดเร็ว สะดวกสบาย โดยครอบคลุมการใช้ชีวิตในเมืองตั้งแต่ การเดินทาง สุขภาพ การเงิน การใช้ชีวิตทั้งในและนอกบ้าน เป็นต้น เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นลองมาดูตัวอย่างโซลูชั่นที่น่าสนใจที่ Ananda จับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อนำเสนอคุณภาพชีวิตคนเมืองให้ดีขึ้น อยากไปไหนเดินทางได้สะดวกด้วย Haup car (ฮ้อปคาร์) แนวคิดบริการ Car sharing คือหนึ่งในโซลูชั่นการประหยัดพลังงาน เป็นการแบ่งปันรถยนต์กันใช้ ในต่างประเทศมีรูปแบบการให้บริการ Car Sharing 2 รูปแบบด้วยกันคือ กรณีที่มีรถยนต์ส่วนตัว สามารถแบ่งให้ผู้อื่นมาเช่ารถของตนเองได้ กรณีที่มีแพลตฟอร์มเปิดให้เช่ารถยนตร์ ซึ่งฮ้อปคาร์คือ บริการในรูปแบบที่ 2 นั่นเอง เปิดให้ผู้ใช้สามารถเช่ารถยนต์ตามจุดสำคัญๆ ในกรุงเทพฯ และขับไปยังสถานที่ต่างๆ และจ่ายตามการใช้งานจริงได้ ด้วยบริการนี้ Ananda เล็งเห็นว่าสามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้กับ ลูกบ้านที่ไม่มีรถยนตร์เป็นของตนเอง ก็ยังสามารถขับรถไปไหนมาได้ได้อย่างสะดวก เสมือนเป็นรถส่วนตัวของตนเอง โดย Ananda จับมือร่วมกับฮ้อปคาร์บริการ Car Sharing รายแรกของไทยทำให้ลูกบ้านของ Ananda เดินทางได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ใช้งานอย่างไร? เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการดาวน์โหลดแอปฯ ทำการเลือกสถานที่ที่ใกล้คุณ และเลือกเวลาที่ต้องการใช้ หลังจากนั้นยืนยันการจอง พอถึงเวลาที่ต้องเดินทางสามารถใช้แอปฯ บัตรฮ้อปการ์ดในการเปิด/ปิดประตู หลังจากนั้นก็ขับออกไปที่ไหนก็ได้ เพียงแค่ตอนคืนรถก็นำกลับมาจอดที่จุดเดิมเท่านั้น คิดค่าใช้จ่ายอย่างไร? ทั้งหมดเป็นการคิดตามจริง โดยจองขับได้ตั้งแต่ 30 นาที ถึง 1 วัน โดยราคาจะรวมเอาน้ำมัน ประกัน การดูแลรักษา ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก สำหรับลูกบ้าน Ananda ปัจจุบันเปิดให้ใช้บริการได้แล้ว โดยมีรถมาจอดที่ IDE Q จุฬา-สามย่าน และ IDEO Mobi สุขุมวิท และนี่เป็นเพียงตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงแล้วในปัจจุบัน ยังมีตัวอย่างที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย ที่เราจะมาแบ่งปันให้กับผู้อ่านได้ทราบกัน อย่าลืมติดตามเนื้อหาว่า UrbanTech จะมาช่วยให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นได้อย่างไรในตอนต่อๆ ไป

  • Haupcar pioneers car-sharing service

    Bangkok's notorious traffic, disconnected transport modes and rapid urbanisation have triggered the establishment of various smartphone-based taxi service providers in recent years. For more information http://www.bangkokpost.com/archive/haupcar-pioneers-car-sharing-service/1177445

  • เกาะเทรนด์ฮอต"สตาร์ตอัพ-ดิจิทัลเวนเจอร์" "อนันดา-เอสซี-แสนสิริ"เปิดฉากรุก"พ

    เปิดตัวพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย 3 แบรนด์ดังอสังหาฯ ลุยลงทุนปี′60 ปูทาง "ดิจิทัล เวนเจอร์" คิดค้นนวัตกรรม "พร็อพเทค" อนันดาฯจับมือพันธมิตรด้านสตาร์ตอัพ จุดพลุธุรกิจ "เออร์เบิร์นเทค" รับไลฟ์สไตล์คนเมือง นำร่องคาร์แชริ่ง ด้าน "เอสซีฯ" เจียด 50 ล้าน เตรียมตัวก้าวสู่ยุค 4.0 ส่วน "แสนสิริ" เดินหน้าเต็มสูบ นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2560 นี้ อนันดาฯได้เริ่มเปิดตัว อนันดาฯ เออร์เบิร์น เทค (Ananda Urban Tech) มีจุดมุ่งหมายการสร้าง Ecosystem หรือระบบนิเวศที่เหมาะกับการสร้างนวัตกรรม เป็นผู้สนับสนุนการบ่มเพาะสตาร์ตอัพที่จะสร้างธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นเออร์เบิร์น เทค นั่นคือนวัตกรรมที่ช่วยแก้ไขปัญหาการใช้ชีวิตของคนเมือ ง และเตรียมตั้งงบประมาณเพื่อลงทุน ทั้งในกองทุนด้านนวัตกรรมทั่วโลก และในกิจการร่วมทุนกับสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพ "บริษัทอนันดาฯก่อตั้งมา 17 ปี ด้วยมุมมองว่าเราเป็นสตาร์ตอัพที่เริ่มจากการพัฒนาคอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้าเพื่อแก้ปัญหาชีวิตคนเมือง ตอนนี้คอนโดฯแนวรถไฟฟ้าเหมือนกำลังเข้าสู่จุดสูงสุดของเอสเคิร์ฟแล้ว โนโลกที่กำลัง disruption หรือมีการปฏิวัติการทำธุรกิจด้วยนวัตกรรม การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วมาก อนันดาฯจึงต้องปรับตัวไปหาเอสเคิร์ฟใหม่ เป็นธุรกิจใหม่ แต่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเดิม คือการแก้ปัญหาคนเมือง เช่น สินเชื่อกู้บ้าน รถติด สุขภาพผู้อยู่อาศัย เรามองอนาคตวันหนึ่งอนันดาฯอาจไม่ได้มีธุรกิจหลักเป็นการก่อสร้างที่อยู่อาศัยอีกแล้วก็ได้ เพราะธุรกิจใหม่อาจเติบโตได้ในระดับโลก" นายชานนท์กล่าว ขณะนี้อนันดาฯจับมือเป็นพันธมิตรกับหลายองค์กรเพื่อบ่มเพาะสตาร์ตอัพ เช่น ฮับบ้า (HUBBA) และศศินทร์ เพื่อเปิดพื้นที่เสนอไอเดีย-แข่งขันแนวทางธุรกิจสตาร์ตอัพที่เป็นเออร์เบิร์นเทค จับมือกับ Seedstars เพื่อเชื่อมโยงสตาร์ตอัพสู่ระดับสากล นำร่องระบบฮอปคาร์ (Haupcar) บริษัทรถเช่าที่จะพัฒนาไปสู่คาร์แชริ่ง และเปิดพื้นที่สำนักงานที่ตึกเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ ให้กับ Digital Ventures Accelerator batch0 (DVAb0) บ่มเพาะสตาร์ตอัพต่าง ๆ อาทิ Refinn แพลตฟอร์มช่วยเหลือการรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้าน, Seekster แหล่งรวมเพื่อหาบริการอยู่อาศัย เช่น แม่บ้าน, ช่างซ่อม

  • อนันดา เปิดตัว Ananda UrbanTech ประกาศความเป็น Tech Company ในวงการอสังหาริมทรัพย์

    Haupcar เป็น Startup ด้าน car-sharing รายแรกของไทย ให้จองรถขับได้ตั้งแต่ 30 นาที ถึง 1 วัน คิดค่าบริการ 49-55 บาทต่อ 30 นาที และคิดเพิ่ม 5.50 บาทต่อกิโลเมตร หรือคิดค่าใช้จ่าย 1,300 – 1,500 บาทต่อวัน และคิด 5.50 บาทต่อกิโลเมตร กรณีที่ขับเกิน 100 กิโลเมตร มีแอปพลิเคชั่นให้ดาวน์โหลด ซึ่งอนันดา นำร่องให้บริการในโครงการ IDEO Q จุฬา-สามย่าน และ IDEO Mobi อีสท์เกสต์ Note: https://brandinside.asia/ananda-urbantech-tech-company-in-property/

  • Carsharing Service Launches in Bangkok

    Haupcar Co., a startup company, has launched one of the first short-term car rental apps in Thailand, according to a report by the Bangkok Post. The company was founded in April, with the carsharing app launching in August for both iOS and Android systems. Currently, Haupcar has a fleet of 10 carsharing vehicles available for rental, says the report. The service has several locations available in downtown Bangkok. The company hopes to expand its fleet to 50 cars and to increase its membership to 2,000-3,000 people, according to the report. More details: http://www.autorentalnews.com/channel/rental-operations/news/story/2017/01/carsharing-service-launches-in-bangkok.aspx

bottom of page