top of page

Search Results

พบ 134 ผลลัพธ์เมื่อไม่ระบุค่าการค้นหา

  • 5 ที่เที่ยวต้นหนาว ณ เมืองกาญ

    ปีนี้หน้าหนาวมาเร็วมากเลยว่าไหมคะ Haupcar อยากแนะนำที่ท่องเที่ยวสัมผัสลมหนาว ที่กาญจนบุุรี โดยใช้ Haupcar บริการรถเช่า ผ่านแอปพลิเคชั่น ตลอด 24 ชั่วโมง พาเที่ยวทริปนี้ได้ง่ายๆสบายๆ ปิล็อก ตั้งอยู่ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี สถานที่นี้อดีตเคยเป็นเหมืองแร่อันโด่งดัง เมื่อก่อนมีผู้พบเห็นชาวพม่าเข้ามาลักลอบขุดแร่ในพื้นที่นี้ ต่อมา ปี พ.ศ. 2483 องค์การเหมืองแร่ ได้เปิด “เหมืองปิล๊อก” การเปิดเหมืองในครั้งนั้นได้เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจกับกรรมกรชาวพม่า เพราะฝ่ายไทยห้ามมิให้กรรมกรพม่านำแร่ไปขายให้อังกฤษแต่กรรมกรพม่าฝ่าฝืน จึงเกิดการปะทะกันทำให้มีผู้บาดเจ็บและล้มตายจำนวนมาก เดิมชาวบ้านเรียกเหมือนแห่งนี้ว่า "เหมืองผีหลอก" ต่อมาเพี้ยนเป็นจนกลายเป็นชื่อ "ปิล๊อก" ที่เรียกกันในปัจจุบัน หลังจากนั้นก็ได้มีเหมืองแร่อื่นๆทยอยเปิดตามกันมาอีกมากมาย โดยผู้คนพากันเรียกบรรดาเหมืองทั้งหลายในพื้นที่แถบนี้แบบเหมารวมว่า “เหมืองปิล๊อก” ถึงแม้ว่าดินแดนแห่งจะมีตำนานที่น่ากลัว แต่เหมืองแห่งนี้ก็มีความสวยงามแฝงอยู่เช่นกัน เขาช้างเผือก ตั้งอยู่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี มีความสูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ 1,249 เมตร ซึ่งจะเปิดให้เที่ยวประมาณช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ แต่ก็มีบางปีที่ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไป เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย และเส้นทางเดินที่อันตราย ส่วนไฮไลท์วัดใจของเขาช้างเผือก คือ "สันคมมีด" หรือ "สันวัดใจ" มีลักษณะเป็นสันเขาบาง ๆ แคบ ๆ ผู้ที่ชอบความท้าทายที่ต้องการเดินขึ้นไปสัมผัสความงดงามบนสันเขา โดยต้องเดินแถวเรียงหนึ่งขึ้นไป ถึงจะไม่สูงมากแต่ก็เล่นเอาหลายคนใจสั่น เพราะเมื่อมองออกไปทั้งสองข้างจะเห็นเขาลาดลึกลงเป็นเหว สะพานมอญ เมืองบาดาล สะพานอุตตมานุสรณ์ หรือที่นิยมเรียกกันว่า สะพานมอญ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยมีความยาว 850 เมตร และเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็ง ในประเทศพม่า เป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำซองกาเรีย ที่สังขละบุรี กาญจนบุรี นอกจากสะพานมอญแล้วยังมี Highlight อีกอย่าง อย่างเมืองบาดาล เกิดจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ก่อสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ในปีพ.ศ. 2527 ซึ่งมีซากโบสถ์ใต้น้ำของวัดวังวิเวการามเดิม น้ำตกไทรโยคน้อย น้ำตกไทรโยคใหญ่ น้ำตกไทรโยคใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ชั้นเดียว รองรับด้วยชั้นหินสลับกันเป็นชั้น ๆ มีความสูงประมาณ 8 เมตร ส่วนน้ำตกไทรโยคน้อย เป็นน้ำตกที่มีความสูงมากกว่าน้ำตกไทรโยคใหญ่ และมีความโดดเด่นตรงที่สายน้ำพุ่งตกลงมาสู่ แม่น้ำแควน้อย น้ำตกเอราวัณ น้ำตกเอราวัณตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี อยู่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 100 - 400 เมตร แบ่งเป็นชั้นต่างๆ 7 ชั้น มีระยะทางจากชั้นล่างสุดขึ้นไปชั้นบนสุด 1500 เมตร ลำน้ำเมื่อตกลงมาแล้วจะไหลลงแม่น้ำแควใหญ่ หวังว่า 5 ที่เที่ยวต้นหนาว ที่เมืองกาญจะเป็นตัวเลือกหนึ่งสำหรับการท่องเที่ยวของใครหลายๆคนที่ยังไม่มีแพลน และถ้าอยากมองหารถเช่า ที่ใช้งานง่ายๆแค่จองผ่านแอปพลิเคชั่น จองและใช้รถ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง อย่าลืมมองหา Haupcar นะคะ ขอบคุณแหล่งอ้างอิงต่างๆ https://travel.mthai.com/blog/46843.html https://pantip.com/topic/30865163 https://travel.kapook.com/view156912.html https://pantip.com/topic/33191796 https://pantip.com/topic/35610503 #เทยว #กาญจนบร #ธรรมชาต #ภเขา

  • 5 ร้านเด็ดย่านเยาวราช น้อยคนรู้จัก

    ช่วงนี้เห็นหลายคนพูดถึงของกินย่านเยาวราชอยู่บ่อยๆ เลยอยากแนะนำ 5 ร้านเด็ด ย่านเยาวราชทั้งคาว หวาน อร่อยเลื่องชื่อ 1.เกาเหลาน้ำใส โรงหนังเก่า ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องเกาเหลา และก๋วยจั๊บน้ำใสรสเด็ด เส้นกรุบ ซึ่งรสชาติการันตีว่าเด็ด นอกจากนี้วัตถุดิบยังสดใหม่ และ เครื่องในที่ไม่มีกลิ่นคาว ซึ่งร้านจะเปิดตั้งแต่เวลา 1 ทุ่มเป็นต้นไป หน้าโรงหนังเก่า บนถนนเยาวราช 2.เซี้ย หูฉลาม ร้านเซี้ยนอกจากขาย หูฉลาม ยังขายกระเพาะปลาน้ำแดง และบะหมี่ฮ่องกง ที่เป็นสูตรเด็ดสืบทอดรุ่นต่อรุ่น การันตีความอร่อยได้แน่นอน โดยร้านเปิดวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 1 ทุ่ม ถึง ตี 1 พิกัด อยู่ริมถนนเยาวราชฝั่งซ้าย ตรงข้าม ธ.กรุงศรีฯ สาขาเยาวราช (ป้ายร้านสีเหลือง) 3. ป้าจิน หอยแครงลวก ซอยเท็กซัส พิกัดของร้าน ป้าจิน อยู่ในซอยเท็กซัส โดยหอยแครงลวกนั้นมีความสดใหม่ และสามารถเลือกระดับความสุกตามใจอยาก และส่วนที่เด็ดสุดคือน้ำจิ้มเข้ากันกับหอยแครงลวกไม่ว่าจะเป็นระดับความสุกใดก็ตาม ซึ่งร้านจะเปิด อังคาร - อาทิตย์ เวลาเย็นๆ ถึงเที่ยงคืน 4.ข้าวต้มเป็ดตั้งหงีฮวด ร้านนี้การันตีความเด็ด มาหลายสิบปี ด้วยรสชาติอร่อยเด็ด รวมไปถึงความสดใหม่ของวัตถุดิบ นอกจากเมนูอร่อยเด็ดอย่าง ข้าวต้มเป็ด ก็ยังมี ข้าวต้มกระเพาะหมู และ เกาเหลาแห้ง พิกัดของร้านตั้งอยู่ตรงข้ามวัดมงคลสมาคม ซอยแปลงนาม โดยเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11 โมง ถึง 5 ทุ่ม 5. Sweet Time เป็นร้านของหวานจากที่นำเสนอมาทั้งหมด โดยเมนูร้านนี้มีของหวานทั้งแบบเย็นและร้อน เมนูเด็ดได้แก่ เต้าฮวย สาคูแคนตาลูป และ พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน พิกัดตรงข้าม โรงแรม Royal Bangkok ถนนเยาวราช เปิดร้านอังคาร - อาทิตย์ 6 โมงเย็น ถึง ตี 2 ขอบคุณแหล่งที่มาร้านอาหารอร่อยๆ http://www.chillpainai.com/scoop/7353/ https://www.wongnai.com/

  • Haupcar ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยคอนโด ใจกลางกรุง

    วันนี้ Haupcar ผู้ให้บริการ รถเช่า 24 ชั่วโมง ปลดล็อครถผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือ อยากนำเสนอให้ผู้อาศัยในคอนโดได้รู้จักกัน ว่า Haupcar เป็นบริการที่สามารถเติมเต็มความต้องการ ความสะดวกสบายแก่ลูกบ้าน ได้อย่างไร การใช้งาน และ การบริการ เป็นอย่างไร โดยวิธีการสมัคร และการใช้งานง่ายๆแค่ปลายนิ้ว เพียงแค่ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Haupcar จากนั้นสมัครสมาชิกเข้ามาพร้อมอัพโหลดภาพเอกสารประกอบการสมัครขึ้นบนแอพฯ รอทำการตรวจสอบเอกสารแล้วสามารถเริ่มใช้บริการได้ทันที การใช้บริการง่ายๆ หลังจากการสมัครแล้วเพียงแค่เปิดแอปพลิเคชั่น Haupcar แล้วเลือกสถานที่สะดวกรับรถซึ่งมีรถให้เลือกหลากหลาย พร้อมทั้งบอกราคาที่คิดตามจริงที่ใช้บริการ บริการ Haupcar นี้ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนเมืองโดยเฉพาะผู้อยู่อาศัยในคอนโด ต้องการความสะดวกสบายและติดเส้นทางรถไฟฟ้า แต่ยังมีความต้องการที่จะใช้รถยนต์ในบางครั้งเช่น การซื้อของเข้าคอนโด อาจจะซื้อเยอะเดือนละครั้ง หรือหลายครั้งตามแต่รูปแบบการใช้ชีวิต หรือ การออกไปดูเฟอร์นิเจอร์ มาตกแต่งห้อง เช่น ถ้าเราอยากไป IKEA เราอยากซื้อของแต่ไม่มีรถ ลูกบ้านสามารถใช้บริการ Car Sharing ของ Haupcar ได้ เพราะสามารถนำเฟอร์นิเจอร์กลับมาติดตั้งได้ทันที ซึ่งถ้าให้ทาง IKEA จัดส่งอาจจะต้องรอระยะเวลา และมีค่าบริการที่ค่อนข้างสูงและคิดค่าบริการต่อปริมาณ ตามการจัดส่งอีกด้วย นอกจากนี้ แม้ว่าลูกบ้านหลายท่านมีรถแต่ก็อาจจะไม่ตอบสนองความต้องการในการไปเที่ยวในวันหยุด เพราะอย่างเช่น อยากไปเที่ยวเขาใหญ่และมีการแบกจักรยานไปใช้ในเวลาเที่ยว เราก็มีรถขนาดใหญ่ที่ช่วยตอบโจทย์ อย่าง Toyota Fortuner บริการของ Haupcar ได้ช่วยกำจัด Pain point และลดความลำบากยุ่งยากของผู้อยู่อาศัยคอนโด ตอบสนองความสะดวกสบายของลูกบ้านได้ดีทีเดียว นอกจากนี้บริการของเรา คิดตามเป็นจริงตามการใช้งาน มีประกันภัยชั้นหนึ่งและน้ำมันพร้อมบริการ ถ้าลูกบ้านสนใจสมัคร ใช้บริการ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Haupcar หรือสอบถามรายละเอียดได้ทางไลน์ @haup ที่มา http://thinkofliving.com/wp-content/uploads/2012/01/Screen-Shot-2555-01-31-at-9.15.02-PM-540x340.png http://www.ikea.com/ #haupcar #รถ #24hours #condominium #city

  • “โตเกียว มอเตอร์โชว์” นวัตกรรมตอบโจทย์

    "งานโตเกียว มอเตอร์โชว์" จัดแสดงนวัตกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่นซึ่งกำลังมุ่งหน้าสู่การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และการใช้ระบบอัจฉริยะ AI ในการขับเคลื่อนรถยนต์ งานโตเกียว มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 จัดขึ้นตั้งแต่ 28 ตุลาคมไปจนถึง 5 พฤศจิกายน ในปีนี้มีผู้ผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ราว 150 รายเข้าร่วมจัดแสดง จุดสนใจของงานอยู่ที่รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่และไม่ปล่อยไอเสีย รถยนต์นี้ยังติดตั้งโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์ที่จับการเปลี่ยนแปลงของการแสดงออกทางสีหน้าและเสียงของผู้ขับขี่ เมื่อตรวจจับได้ว่าผู้ขับขี่รู้สึกเหนื่อย ระบบจะสลับไปสู่ระบบขับขี่อัตโนมัติ สถานีโทรทัศน์ NHK (โทรทัศน์แห่งชาติของญี่ปุ่น) รายงานการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญว่า บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกจะหันมาเน้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ปล่อยไอเสีย เพราะประเทศต่างๆ ได้ออกกฎเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากขึ้น และจะทำให้รถยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมันหรือแก๊สจะหมดไปจากท้องถนนในเวลาไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า เยอรมนี อังกฤษ และฝรั่งเศส ได้ตัดสินใจลดการผลิตรถยนต์ที่ใช้แต่เพียงน้ำมันแล้ว ในขณะที่ประเทศจีนได้ออกนโยบายใหม่ โดยกำหนด “โควต้า” ให้ผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายจะต้องทำสัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดในได้ 8%ในปี 2018 และเพิ่มเป็น 10% ในปี 2019 และ 12% ในปี 2020 โดยหากค่ายรถยนต์ใดไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายก็ต้องซื้อเครดิตจากคู่แข่ง มาตรการเช่นนี้ทำให้ค่ายรถยนต์ต่างๆต้องเร่งสร้างยอดขายรถไฟฟ้าในตลาดจีนอย่างแข็งขัน เช่นเดียวกับ รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐก็กำหนดอัตราส่วนของรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ผู้ผลิตต้องจำหน่ายเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นได้เน้นการผลิตรถยนต์ไฮบริดซึ่งใช้น้ำมันและมอเตอร์ มากกว่าการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามาโดยตลอด แต่ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป รถยนต์ไฮบริดจะไม่ถือเป็นรถยนต์ประเภทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นวิเคราะห์ว่า เหตุผลสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้คือความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งได้เห็นพ้องเมื่อปลายปี 2558 โดยความตกลงนี้เรียกร้องให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ และตั้งเป้าในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทางปฏิบัติให้เหลือศูนย์หลังปี 2593 ยุโรปตั้งใจที่จะฟื้นฟูอุตสาหกรรมรถยนต์ของตน โดยใช้ยุทธศาสตร์ที่ต่างจากญี่ปุ่นที่เน้นผลิตรถยนต์ไฮบริด เช่นเดียวกับจีนที่กำหนดเป็นนโยบายของรัฐที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และกำหนดกฎเกณฑ์เพื่อจำกัดรถยนต์ไฮบริดซึ่งผู้ผลิตของญี่ปุ่นถนัดและมีความได้เปรียบ ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น เช่น โตโยต้าและฮอนด้า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเปลี่ยนการผลิตจากรถยนต์ไฮบริดเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อรับมือกับนโยบายของจีน ถ้าพูดในแง่เทคโนโลยี รถยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งโดยใช้แบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวนั้นสามารถวิ่งได้ประมาณ 200 กิโลเมตรจากการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง ดังนั้นการใช้งานจึงจำกัด นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่ว่า แบตเตอรี่จะเสื่อมเมื่อเวลาผ่านไป และการชาร์จแบตเตอรี่แต่ละครั้งนั้นใช้เวลานาน ปกติรถยนต์ไฟฟ้าจะบรรจุด้วยแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนซึ่งจะเสื่อมสภาพในอุณหภูมิสูงและมีความเสี่ยงในการติดไฟ เนื่องด้วยปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ แบตเตอรี่จึงไม่ควรถูกชาร์จให้เต็มแต่ควรชาร์จประมาณร้อยละ 70 ถึง 80 เท่านั้น ผู้ผลิตญี่ปุ่นมีความชำนาญเกี่ยวกับการควบคุมพลังงานของแบตเตอรี่จากการพัฒนารถยนต์ไฮบริด ผู้ผลิตญี่ปุ่นจึงต้องเร่งนำเทคโนโลยีนี้ปรับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความเปลี่ยนแปลงของโลกที่มุ่งสู่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างชัดเจน และรับมือกับกฎเกณฑ์ของประเทศผู้ใช้รถยนต์รายใหญ่อย่างจีนและสหรัฐ ที่จะลดจำนวนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันลงเรื่อยๆ จนหมดจากท้องถนนไปในที่สุด อ้างอิง : https://mgronline.com/japan/detail/9600000109526 #พลงงาน #AI #นวตกรรม #ญปน

  • กิน เที่ยว เล่น ตลอด 24 ชั่วโมง ย่านข้าวสาร บางลำพู

    หลายคนในวันหยุดอยากทำอะไร ชิคๆ คูลๆ ในสถานที่ต่างๆ ตลอดทั้งวัน วันนี้อยากแนะนำสถานที่ย่านเมืองเก่าของกรุงเทพฯ ที่ตอบโจทย์กิน เที่ยว เล่น ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ไม่เคยหลับไหล ผ่านย่านบางลำพู และข้าวสาร ย่านบางลำภู เป็นย่านเก่าแก่ มีความเป็นมาที่น่าสนใจ มีสถานที่สำคัญอย่าง ป้อมพระสุเมรุ ที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่สร้างกรุงฯ ซึ่งเป็นเพียงสองป้อมรอบกรุงฯ ที่หลงเหลือในปัจจุบัน คือป้อมมหาไชย และป้อมพระสุเมรุ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ เล่าถึงความเป็นมา-วิธีชีวิตของชาวบางลำพูในอดีตไว้ที่ พิพิธภัณฑ์โดยตั้งอยู่ตรงข้ามป้อมพระสุเมรุเปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00-16.00 น. บางลำพูยังมีของกินอร่อยๆ อย่างร้านปาท่องโก๋ย่าง เปิดบริการตั้งแต่เช้าตรู่ มีเมนูขึ้นชื่ออย่าง ปาท่องโก๋ย่าง ข้าวหน้าไก่ และไอติมรสต่างๆ ร้านอยู่บริเวณตรงข้ามวัดบวรฯ หลายๆคนเคยได้ยิน ร้านโรตีมะตะบะ ท่าพระอาทิตย์ อยู่บริเวณป้อมพระสุเมรุ ย่านบางลำพู ร้านนี้ไม่ต้องพูดถึงความเก๋าของรสชาติ ถูกการันตีตลอดมา มีเมนูขึ้นชื่ออย่าง โรตี อันหอม กรอบนุ่มมัน และ มะตะบะ หอมกรุ่น อร่อยกรอบ นอกจากเมนูเด็ดที่กล่าวมายังมีเมนูอร่อย อีกมากมาย เช่น โรตี แกงเขียวหวาน มัสมั่น อีกด้วย ส่วนราคารับรองได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคา ส่วนร้านสุดท้าย ขนมเบื้องแม่ประภา ซึ่งร้านขนมเบื้องนี้สืบทอดการทำ มาหลายรุ่น จุดเด่นคือ แป้งบางกรอบ หนักเครื่อง รสชาติหอมอร่อย ร้านนี้อยู่บริเวณ ใกล้เคียงกับป้อมพระสุเมรุ คราวนี้มาถึงย่านแสงเสียง อย่างข้าวสารก็มีร้านนั่งชิลๆ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิตไม่เคยหลับไหลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งบรรยากาศก็แตกต่างจากย่านบางลำพู แต่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ร้านย่านนี้มีตั้งแต่ของกินชิลๆ ยันไปถึงผับบาร์สนุกๆ ทั้งไทยและต่างชาติต่างมาสนุกกัน อย่าง Fu Bar ที่เป็นร้านอาหารชิลๆ ยันผับบาร์ให้สนุกๆกัน ร้านBombay Blues อยู่บริเวณ ซอยรามบุตรี ใกล้กับข้าวสาร ซึ่งเป็นร้านชิลๆ ตกแต่งสไตล์อินเดีย พร้อมอาหารอินเดียบริการ ชิลๆ แม้จะย่านเมืองเก่าแต่ก็มีชีวิตชีวา ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งกลิ่นอายวิถีชีวิตที่ไม่เคยหลับไหลของชีวิต ที่อยากให้ใครหลายคนมาสัมผัสวิถีชีวิต ชิลๆ ในย่านเมืองเก่าตลอด 24 ชั่วโมง ขอบคุณแหล่งอ้างอิงต่างๆ http://www.paiduaykan.com/province/central/bangkok/banglumpoomuseum.html https://pantip.com/topic/32299057 http://www.edtguide.com/article/454339/Banglumpu http://www.10best.com/destinations/thailand/bangkok/banglamphu/nightlife/bombay-blues/ #24hours #ขาวสาร #อาหาร #เทยว #ชล #เลน

  • 5 เมนูอาหารเจแบบคลีนๆ อิ่มบุญ อิ่มใจ ไม่อ้วน ตลอด 24 ชั่วโมง

    เนื่องในวันที่วันที่ 20-28 ตุลาคม 2560 เป็นช่วงเทศกาลกินเจ Haupcar ขอนำเสนอ 5 เมนูอาหารเจแบบ คลีนๆ ทานแล้วอิ่มบุญ อิ่มใจ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 1. ยำเห็ดรวมเจ เมนูนี้ทำง่ายๆ อร่อยแบบคลีนๆ พร้อมทั้งคุณค่าทางอาหารมากมาย เหมาะสำหรับคนที่ชอบกลิ่น ความเหนียวนุ่มและรสชาติของเห็ด ซึ่งส่วนผสมหาไม่ยากและสามารถทำได้ง่ายๆ ส่วนผสม • เห็ดออรินจิ หั่นเฉียงเป็นชิ้นบาง 100 กรัม • เห็ดเข็มทอง ฉีกเป็นเส้น 100 กรัม • เห็ดชิเมจิขาว-ดำ 100 กรัม • คื่นช่ายหั่นเป็นท่อน • แครอทซอยเป็นเส้น 1/2 ถ้วย • พริกขี้หนูสับหยาบ 5-10 เม็ด • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1.ล้างเห็ดทั้งหมดให้สะอาด สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้ 2. ใส่พริกขี้หนูสับหยาบ (ตามชอบ) น้ำมะนาว ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทรายลงในถ้วยผสม คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายหมด ใส่คื่นช่ายซอย เคล้าผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้ 3. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เห็ดทั้งหมดลงลวกจนสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำจนแห้ง ใส่ลงในน้ำยำที่ผสมไว้ เคล้าผสมให้เข้ากันเบา ๆ ชิมรสตามชอบ ตักใส่จาน พร้อมรับประทาน 2. น้ำตกเจ เมนูนี้เอาใจ คนที่ชอบกินอาหารอีสานแซบๆ นัวๆ แต่อยากจะกินอาหารเจ อิ่มบุญ อิ่มใจ แถมยังมีคุณค่าทางโปรตีนจากโปรตีนเกษตร เหมาะสำหรับหนุ่มสายเวทที่กำลังกินเจอยู่ แต่ชื่นชอบโปรดปรานในรสชาติของเนื้อ โดยส่วนผสมและวิธีทำก็ง่ายๆ ส่วนผสม • โปรตีนเกษตรขนาดใหญ่ (แช่น้ำจนนุ่ม) 2 ชิ้น • ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ • ผงซุปเห็ดหอมเจ 1 ช้อนโต๊ะ • พริกไทยดำบด 1/2 ช้อนชา • พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ • ผักชีฝรั่งซอย วิธีทำ 1. หมักโปรตีนเกษตรกับซอสถั่วเหลือง น้ำมันพืช ผงซุปเห็ดหอมเจ และพริกไทยดำบด พักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นนำไปย่างในกระทะจนหอม หั่นเป็นชิ้น เตรียมไว้ 2. ผสมพริกป่น น้ำมะนาว ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และข้าวคั่วเข้าด้วยกัน ปรุงรสตามชอบ จากนั้นใส่โปรตีนเกษตรที่ย่างไว้ และผักชีฝรั่งลงไปเคล้าผสมให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ 3.สามเกลออบวุ้นเส้น เมนูนี้เอาใจคนอยากกินกุ้งอบวุ้นเส้นแต่ยังอยากกินเจอยู่ วิธีทำก็ง่ายๆ ประหยัดเวลา แถมอร่อยเหาะ ส่วนผสม เห็ดหอมแช่น้ำให้นิ่มหั่นเป็นเส้น 3 ดอก เห็ดเข็มทอง 3/4 ถ้วย เห็ดหูหนู 3/4 ถ้วย ขิงสับละเอียด 3/4 ถ้วย ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย พริกไทยดำ ตามชอบ วุ้นเส้นห่อเล็กแช่น้ำให้นิ่ม (ตัดสั้นประมาณ 4-5 นิ้วตามชอบ) งาขาวคั่ว วิธีทำ 1.นำส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าให้เข้ากันพักไว้ 2.เตรียมหม้ออบ ใส่น้ำเปล่านิดหน่อยและวางเรียงขิงหั่นแว่นให้ทั่ว 3.นำส่วนผสมที่เตรียมไว้เทลงหม้อ ตั้งไฟกลางประมาณ 12-15 นาที (ช่วงนาทีที่ 10 ให้เปิดดูให้นำเส้นด้านบนคลุกเคล้ากับน้ำปรุงด้านล่างเกลี่ยให้เข้ากันเพื่อให้รสชาติทั่วถึง พอสุกปิดไฟ โรยงาขาว พร้อมเสิร์ฟ 4. มะระตุ๋นเกี่ยมฉ่ายและเต้าซี่เจ มาถึงเมนูน้ำๆบ้าง ให้ซดน้ำซุปอร่อยๆกันบ้างกับเมนู มะระตุ๋นเกี่ยมฉ่ายและเต้าซี่เจ ส่วนผสมก็หาง่าย วิธีทำก็ไม่ยุ่งยาก ส่วนผสม • ผักกาดดอง • เต้าหู้ 1 ก้อน • เห็ดหอม • เห็ดออรินจิ • มะระ • เต้าซี่ • ซีอิ๊วขาว • ผงปรุงรสเห็ดหอม วิธีทำ 1. ตั้งน้ำเปล่าให้เดือด ใส่ผักกาดดองลงต้ม และตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้ 2. ใส่เห็ดหอมลงผัดให้หอม ตักขึ้นพักไว้ 3. ใส่เห็ดออรินจิลงผัดให้สุก ตักขึ้นพักไว้ 4. ใส่ผักกาดดองลงไปผัดกับน้ำ ตามด้วยเต้าหู้ เห็ดหอม และเห็ดออรินจิ ใส่เต้าซี่ เติมน้ำเปล่าพอท่วม ต้มไปเรื่อย ๆ 5. ตั้งกระทะใส่น้ำให้ร้อน ใส่มะระลงไปผัดจนสุก ตักลงไปผสมกับผักกาดดองที่ต้มรอไว้ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและผงปรุงรสเห็ดหอม ต้มต่ออีกประมาณ 30 นาที ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ 5. หลนเต้าหู้ยี้เจ เป็นเมนูน้ำพริกแบบไทยๆ แต่รับรองอร่อยน้ำลายสอแน่นอน แถมยังแคลอรี่ต่ำซึ่งส่วนผสมและวิธีการทำดังนี้ ส่วนผสม • เนื้อเต้าหู้ยี้แดง 1/2 ก้อน • น้ำเต้าหู้ยี้แดง 2 ช้อนโต๊ะ • ตะไคร้ซอย 2 ต้น • กะทิกล่อง สำเร็จรูป 1 กล่อง • เต้าหู้ขาวหั่นสี่เหลี่ยม 1/2 แผ่น • พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา • น้ำตาลทราย • น้ำมะขามเปียก • ผักสดต่าง ๆ ตามชอบ วิธีทำ 1. บดเนื้อเต้าหู้ยี้กับน้ำเต้าหู้ยี้ให้เข้ากันจนละเอียด 2. ใส่กะทิลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่ตะไคร้ซอย เต้าหู้ยี้ที่บดไว้ และเต้าหู้ขาว คนผสมให้เข้ากัน 3. ปรุงรสด้วยเกลือป่น ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และน้ำมะขามเปียก คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ จากนั้นใส่พริกชี้ฟ้า ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมผักสดตามชอบ ทั้ง 5 เมนูนี้ รับรองว่ารับประทานแล้วไม่อ้วน แถมอิ่มบุญอิ่มใจ ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง 9 วันในเทศกาลกินเจปีนี้ ขอขอบคุณแหล่งอ้างอิงต่างๆ ดังนี้ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nernnam&group=35 https://pantip.com/topic/32627347 https://cooking.kapook.com/view130962.html #food #living

  • 5 ร้านบุฟเฟต์ชาบู-ปิ้งย่างสุดคุ้มราคาไม่เกิน 500 บาท

    ในสมัยนี้คนเขาว่ากันว่า เนื้อคู่ไม่สำคัญเท่าเนื้อย่าง Haupcar เลยอยากเอาใจ สายกินแนะนำ 5 ร้านบุฟเฟต์ชาบู-ปิ้งย่าง สุดคุ้มงบไม่เกิด 500 บาท จะมีที่ไหนและจุดเด่นไงบ้างติดตามกันได้เลย Akiyoshi สุกกี้ยากี้ ชาบูสไตล์ญี่ปุ่น ทางร้านบริการทั้งอาหารจานเดี่ยว และบุฟเฟต์ โดยบุฟเฟต์มีให้เลือกว่าจะรับประทานชาบู สุกี้ยากี้ หรือทั้งชาบูและสุกี้ยากี้ สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 494 บาท รวมค่าบริการทุกอย่างเรียบร้อย ถ้าให้พูดถึงคุณภาพอาหารถือว่าเด็ดเลยทีเดียว ส่วนสถานที่ตั้งของ Akiyoshi มีหลากหลาย เช่น สยามสแควร์วัน และ เซ็นทรัลเวสต์เกต Supia Korean BBQ เป็นบุฟเฟต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลีมีทั้งหมู เนื้อ ทะเล ผักสด และของกินเล่นหลากหลาย ส่วนราคาคุ้มค่าคุ้มราคาต่อสายกิน โดยสั่งอาหารจานเดียวของร้านราคาจะอยู่ที่ราวๆ 150 บาท ส่วนแบบบุฟเฟ่ต์ราคาคนละ 299 บาทครับ ส่วนที่ต้งอยู่บริเวณ BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ ตรงข้ามสวนสันติภาพ Shabuku ชาบูสไตล์ญี่ปุ่น มีหลากหลายสาขาให้เลือก ตามแหล่งชุมชน และมหาลัยต่างๆ เช่น ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต และ I’m Park จุฬาฯ ในบุฟเฟต์ มีหลายราคาให้เลือกขึ้นอยู่กับเซ็ตบุฟเฟต์ที่เลือกโดย สนนราคาเริ่มต้นที่ 379 บาท ซึ่งยังไม่รวมค่าน้ำ Refill ส่วนอาหารถือว่าคุณภาพยอดเยี่ยมเมื่อเทียบกับราคา Shabu Indy ร้านนี้ก็จัดว่าเด็ด งบประมาณไม่เกิดแน่ๆ พร้อมทั้งเมนูอาหารที่หลากหลายเอาใจสายกินทุกคน ซึ่งสนนราคาชุดบุฟเฟต์เริ่มต้นที่ 259 บาท แต่ยังไม่รวมน้ำ นะครับ ส่วนสาขาก็มีหลายที ทั้ง ม.เกษตร บางเขน และ พระจอมเกล้า ลาดกระบัง มาถึงร้านสุดท้าย BestBeef ปิ้งย่างสุดเด็ด ติดBTSอ่อนนุช ซึ่งมีบริการทั้งเนื้อเเละซีฟู้ดที่คุณภาพที่ให้มากกว่าคำว่าพรีเมี่ยม บุฟเฟ่ต์ทานไม่อั้น 2 ชั่วโมงเต็ม มีให้เลือก 3 ราคา สนนราคาเริ่มต้น 269 บาท แต่ไม่รวมเครื่องดื่ม จากราคาเริ่มต้นกับคุณภาพอาหารพรีเมียมแบบนี้จัดว่าเด็ดทีเดียว ที่มา https://www.wongnai.com/listings/10-korean-grill?ref=ct https://www.facebook.com/BestBeefsukhumvit/ https://www.facebook.com/Shabukubuffet/?ref=search https://www.facebook.com/AkiyoshiRestaurant/ https://pantip.com/topic/36618549

  • Smartคอนโด Smartฟังชั่นก์ เทรนด์อยู่อาศัย สไตล์คนเมือง

    การพัฒนาที่อยู่อาศัย ในปัจจุบันไม่ได้มองแค่โลเคชั่น การดีไซน์ ฟังก์ชั่นการใช้งาน สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเท่านั้น แต่ทว่ายังมีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้เป็นองค์ประกอบเพื่ออรรถประโยชน์แก่ผู้อยู่อาศัยสูงสุด และนอกจากนี้โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ก็หันมาหาวิธีตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ในเรื่องของ เดินทางที่สะดวกสบาย นอกเหนือจากบริเวณคอนโดซึ่งติดอยู่ตามแนวรถไฟฟ้า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของไลฟ์สไตล์คนเมือง ปัจจุบัน เริ่มเห็นการพัฒนาโครงการในรูปแบบของสมาร์ทคอนโด (Smart Condo) ในหลายโครงการ อาทิ “เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต” ซึ่งถือเป็นสมาร์ทคอนโดแห่งแรกภายใต้การพัฒนาของบริษัทบีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ปเป็นคอนโดมิเนียมสูง 43 ชั้น จำนวน 841 ยูนิต บนที่ดินกว่า 4 ไร่ ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีหมอชิต และรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสวนจตุจักร โครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต ได้มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยมาใช้ให้ สอดรับกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ประกอบด้วย ระบบการเข้าออกอาคารโดยใช้บัตรแรบบิทการ์ดรุ่นพิเศษที่สามารถใช้ทั้งเป็นตั๋วโดยสารบีทีเอส และเข้าออกคอนโดมิเนียมและพื้นที่สันทนาการอื่นๆ ในโครงการ ระบบ RFID สำหรับการเปิด ปิด ทางเข้าคอนโดโดยอัตโนมัติ ยังมีการใช้ Booking Facility ในการจองห้องและสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางผ่าน Home Service Application มีระบบเปิดปิดไฟในพื้นที่ส่วนกลางแบบอัตโนมัติเพื่อช่วยประหยัดพลังงานและยังมี Smart Locker ที่สามารถใช้โค้ดส่วนตัวมาเปิดรับของได้ด้วยตนเองได้ตลอดเวลา พร้อมตรวจสอบได้จากทาง Home Service Application รวมถึงระบบ Trendy Wash ซึ่งเป็นการเติมเงินซักผ้าใน E-wallet ที่สอดคล้องกับเทรนด์สังคมไร้เงินสด (Cashless) พร้อมระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อเครื่องซักผ้าเสร็จเรียบร้อย Good Waste Refun Machine ตู้รีไซเคิลขวดอัตโนมัติ ลูกบ้านสามารถนำขวดพลาสติกมารีไซเคิลเปลี่ยนเป็นเงินเข้าส่วนกลางเพื่อบำรุงโครงการ หรือบริจาคเข้ามูลนิธิตามที่กำหนด และที่เป็นไฮไลต์ในโครงการก็คือ Smart Move บริการเช่ายานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตโดยมี รถยนต์ BMW รุ่น i3 เป็นการร่วมมือกับผู้ให้บริการ Car sharing แห่งแรกของประเทศไทยอย่าง Haupcar ซึ่งบริการ Smart Move ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% สำหรับ Car Sharing ให้ลูกบ้านได้เช่าใช้ และคิดค่าบริการจริงเป็นนาที พร้อม EV Charger เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านอกจากนั้น ยังมีการยกระดับระบบในอาคารและองค์ประกอบต่างๆ เพิ่มเติม อาทิ ระบบการระบายอากาศ (Ventilation system) ทำให้อากาศไหลเวียนและถ่ายเทภายในโครงการ โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศในบางวันเป็นต้น ด้านบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ถือเป็นอีกค่ายให้มีความสำคัญในการนำเทคโนโลยีมาใส่ในโครงการอย่างเช่น ไอดีโอ โมบิ อโศก“The Revolutionary Smart Condo” เป็นคอนโดสูง 36 ชั้น จำนวน 508 ยูนิต ตอบรับทุกความทันสมัย ล้ำหน้าสู่อนาคตในทุกตารางนิ้วที่ได้สัมผัส ปฏิวัติสู่การอยู่อาศัยที่เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการในการอยู่อาศัย โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ย. 2561 โครงการนี้นอกจากจะเป็น Smart Location ตั้งอยู่บนทำเลย่านธุรกิจหลักที่สำคัญที่สุดในอนาคตทั้งอโศกและพระราม 9 ใกล้ระบบคมนาคมแล้ว ยังสร้างมั่นใจในความปลอดภัย (Smart Safety) โครงการนี้นอกจากจะเป็น Smart Location ตั้งอยู่บนทำเลย่านธุรกิจหลักที่สำคัญที่สุดในอนาคตทั้งอโศกและพระราม 9 ใกล้ระบบคมนาคมแล้ว ยังสร้างมั่นใจในความปลอดภัย (Smart Safety) ให้กับผู้อยู่อาศัยด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โดยเชื่อมต่อระบบ Security ผ่าน Smartphone แจ้งเตือนแบบ Real Time ระบบที่จะแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีคนเข้ามาในห้อง ขณะที่การออกแบบดีไซน์ (Smart Design) ที่ให้มากกว่าแค่ความสวยงาม แต่ยังมีฟังก์ชั่นที่สมบูรณ์แบบตอบทุกความต้องการในการอยู่อาศัยแบบรอบด้าน และเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ Eco-Urban Life การออกแบบฟังก์ชั่นส่วนต่างๆโดยคำนึงถึงประโยชน์ของการอยู่อาศัยและยังช่วยให้ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย เช่น Solar Shading กันสาดรอบอาคารเพื่อลดปริมาณแสงแดดและความร้อนที่เข้าสู่ตัวอาคารเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการนำBathroom Ventilation Systemระบบการถ่ายเทหมุนเวียนอากาศของห้องน้ำเพื่อการอยู่อาศัยมาใช้ในอีกหลายโครงการ ทั้งนี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาอนันดามีการเปิดตัว Ananda UrbanTech ซึ่งพร้อมจะจับมือเป็นพันธมิตรให้การสนับสนุนและริเริ่มนวัตกรรมเพื่อต่อยอดและยกระดับการอยู่อาศัยของคนเมืองให้ดียิ่งขึ้น โดยได้มีการเปิดบริการ “Haupcar” ซึ่งเป็นการบริการในรูปแบบ Car Sharing ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการเดินทาง โดยให้บริการรถเช่าในรูปแบบการบริการตนเองผ่านทางสมาร์ทโฟน ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น การพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบเดิมๆ คงไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลและนั่นคือความท้าทายในการทำโครงการในอนาคตอันใกล้ซึ่งไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ระดับบนอีกต่อไป.... ที่มา : https://m.posttoday.com/property/news/518439 ผู้เขียน : อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร #smartliving #haupcar #carsharing #sansiri #ananda #condominium

  • ในหลวงรัชกาลที่ ๙ กับพลังงานทางเลือก

    ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ชาวไทยหลายคน ไม่อยากให้มาถึง คืองานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ หรือในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระองค์ทรงมีพระราชกรณียกิจ และโครงการต่างๆ ที่ทำให้ปวงชนชาวไทยอยู่ดีกินดี ดังนั้น Haupcar จึงอยากรำลึกถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ในเรื่องของพลังงานทดแทน อาทิเช่น พลังงานลม,พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานน้ำ และพลังงานทดแทนน้ำมัน เป็นต้น ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงมีโครงการพระราชดำริเรื่องพลังงานลม ตัวอย่างเช่นโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา มีการใช้กังหันลมมาสูบน้ำในสวนจิตรลดา ที่บ่อเลี้ยงปลานิล และโรงเพาะเห็ด ต่อมาคือพลังงานแสงอาทิตย์ จากการที่พระองค์ทรงเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย เรื่องการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์จึงมีแผงโซล่าเซลล์ทดลอง ตามโครงการพระราชดำริต่างๆ เช่น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้านพลังงานทดแทนน้ำ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงตระหนักถึงประโยชน์ของพลังงานทดแทนซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ ไม่ใช่เพียงแค่สำหรับอุปโภค บริโภคเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการที่พลังงานน้ำสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำบ้านยาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพระอัจฉริยภาพของพระองค์ทำให้มองการณ์ไกล เข้าใจถึงประโยชน์ของพลังงานน้ำดังที่คนใกล้ชิดพระองค์กล่าวไว้ว่า “พระองค์ท่านทรงมีความรู้ว่าการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำสามารถทำได้สองแบบแบบแรกได้จากการที่น้ำไหลจากที่สูงลงมาพัดกังหันเครื่องกำเนิดไฟฟ้าส่วนอีกแบบหนึ่งคือน้ำไหลในทางราบ หากไหลอยู่ตลอดเวลาก็ทำให้กังหันเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหมุนได้เช่นกัน” สุดท้ายนี้ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการหาพลังงานทดแทน ที่จะสามารถนำมาใช้แทนแหล่งพลังงานเดิมที่กำลังหมดลงไป พระองค์จึงได้ริเริ่มการพัฒนาแก๊สโซฮอล์ ในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2528 ทรงมีแนวคิดในการนำอ้อยมาแปรรูปเป็นเอทานอล อีกทั้งยังให้ทุนวิจัยพลังงานแก๊สโซฮอล์ หลังจากการพัฒนาเป็นที่น่าพอใจแล้ว ซึ่งเกิดจากการร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ดังนั้น บริษัท การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จำกัด มหาชน (ปตท) จึงได้นำแก๊สโซฮอล์ไปจัดจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไปในปี พ.ศ.2540 เห็นได้ชัดว่าในหลวงรัชกาลที่ ๙ มีอัจฉริยภาพทางด้านพลังงานซึ่งล้วนส่งผลต่อการกินดีอยู่ดีของคนไทย ถึงแม้ว่าพระองค์จะจากไปแต่พระราชกรณียกิจที่พระองค์ทำเพื่อประชาชนชาวไทยยังสถิตอยู่ในใจ และเป็นมรดกให้แก่รุ่นลูกรุ่นหลานชาวไทย ไปอีกนานเท่านาน ที่มา http://www.eppo.go.th/images/Infromation_service/Publication/Publication/King/publication.pdf http://www.tgcontrol.com/news/articles/ในหลวงกับพระอัจฉริยภาพe/ http://www2.eppo.go.th/vrs/VRS46-01-RoyalProject.html #ในหลวง #พลงงาน

  • 5 สถานที่ไหว้ขอพร หลังสอบเสร็จ

    น้องๆนิสิต นักศึกษาเกือบทุกคนในช่วงนี้กำลังสอบ Midterm กันอยู่ใช่ไหมเชื่อว่าหลายๆคนคงเครียดว่าผลออกสอบจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะคะแนนสอบ Midterm จะส่งผลว่าจะชิวหรือไม่ชิว หลังจากนี้จะ F หรือ จะ A จะดรอปหรือไม่ดรอป Haupcar เลยอยากเอาใจเหล่านิสิตนักศึกษาที่กำลังเคร่งเครียดในช่วงการสอบ Midterm โดยลิสต์ 5 สถานที่ไหว้ขอพรหลังสอบเสร็จ ให้น้องๆ นิสิตนักศึกษาได้ผ่อนคลายลดความกังวลบ้าง สำหรับสถานที่แรก วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา ปฎิเสธไม่ได้ว่าน้อยคนนักที่ไม่รู้จักหลวงพ่อโสธร ซึ่งผู้เขียนเองก็ได้ไปไหว้สักการะบ่อยมาก ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการขอพร แล้วได้อย่างใจปรารถนา สำหรับองค์หลวงพ่อโสธรนั้นขอได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องการเกณฑ์ทหารและเรื่องมีบุตร สถานที่ถัดมา วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดพนัญเชิงอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ใกล้ๆกับน้องนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และ มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งชื่อเต็มของหลวงพ่อโตคือ "พระพุทธไตรรัตนนายก" หรือชื่อจีนที่เรียกกันว่า "หลวงพ่อซำปอกง" ที่วัดพนัญเชิงฯ ส่วนใหญ่มักจะไปไหว้ขอพรในเรื่องการเรียน, การงาน และเรื่่องการเงิน ได้ยินมาว่าหลายๆคนที่เคยไปขอพรมักจะสมหวัง ลองไปกันดูนะ ที่ถัดมาใกล้ๆ กรุงเทพฯ เรานี่เองคือ วัดพระปฐมเจดีย์วรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม ซึ่งใกล้กับ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสนามจันทร์ และ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา โดยนอกจากการไหว้สักการะ องค์พระปฐมเจดีย์แล้ว ยังมีพระร่วงโรจนฤทธิ์ ให้สักการะด้วย วัดแห่งนี้ยังให้ความรู้สึกแบบวัดไทยโบราณ เหมาะแก่การถ่ายภาพสวยๆอีกด้วย ลองเขยิบเข้ามาในเมืองกันบ้าง เชื่อว่าหลายๆคน คงเคยไปไหว้ ศาลพระพรหมเอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ซึ่งไม่จะเป็นว่าคนไทย หรือชาวต่างชาติก็จะมาไหว้ขอพรที่ศาลพระพรหม บางคนขอพรเรื่องการงาน บางคนขอเรื่องการเรียน หรือเรื่องสุขภาพ โดยวิธีการสักการะพระพรหมนั้น ใช้ธูป 12 ดอก เทียน 4 เล่ม พวงมาลัยดวงเรือง และทองคำเปลว 4 แผ่น โดยเริ่มบูชาจากด้านหน้าพระพักตร์ของท้าวมหาพรหม ที่หันหน้ามาด้านประตูทางเข้า และวนรอบองค์ท้าวมหาพรหมในทิศตามเข็มนาฬิกา หรือวนทางซ้ายมือของผู้ที่มากราบไหว้ และจุดธูปไหว้ด้านละ 3 ดอก พร้อมเทียน พวงมาลัย และทองคำเปลว บูชาทั้ง 4 ด้านขององค์ท้าวมหาพรหม สำหรับสถานที่สุดท้าย ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร มีคำบอกเล่าสืบต่อกันมาหลายทอดว่า ถ้าอยากเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานก็ต้องไปสักการะบูชาศาลหลักเมือง หากน้องๆ อยากได้คะแนนสอบดีๆ ไม่ตกมีน ได้ A แน่ๆ การมาขอพรที่นี่ ก็อาจจะช่วยน้องๆหลายคนได้ สำหรับที่ตั้งศาลหลักเมืองกรุงเทพฯนั้น อยู่ข้างสนามหลวง ฝั่งกระทรวงกลาโหม สุดท้ายนี้ แม้ว่าจะไหว้ขอพรที่ใดก็ตาม หรือไปไหว้ขอพรทั้ง 5 ที่ข้างต้น ทั้งนี้น้องๆนิสิต นักศึกษา ก็ต้องขยันอ่านหนังสือ ตั้งใจเรียน จะได้ทำข้อสอบได้คะแนนผ่านฉลุย ท็อปเซ็ค มากกว่าขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยช่วยเหลือตลอด ดังสุภาษิตที่ว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ที่มา https://news.voicetv.co.th/thailand/111638.html https://www.touronthai.com/article/2094 https://travel.kapook.com/view147531.html http://www.zthailand.com/place/bangkok-city-pillar-shrine-bangkok/ https://www.bloggang.com/m/mainblog.php?id=anyadiary #examination #midtermexam #haupcar #ไหวพระ #สอบ

  • ซื้อรถหรือคอนโด สิ่งไหนตอบโจทย์คนเมืองรุ่นใหม่?

    เป็นที่ปฎิเสธไม่ได้ว่าหนุ่มสาวรุ่นใหม่วัยทำงานหลายๆคน ที่ทำงานในกรุงเทพฯ นั้นกำลังชั่งใจในการลงทุนหรือการสร้างความสะดวกสบาย ในเชิงอรรถประโยชน์ของตน ระหว่าง การเลือกซื้อคอนโดหรือการซื้อรถยนต์ ถ้าหากลองสอบถามหนุ่มสาวออฟฟิตรุ่นใหม่หลายคน ก็อาจจะมีคำตอบที่หลากหลายทั้งเลือกซื้อรถ เลือกซื้อคอนโด ซึ่งหลายๆคนเป็นที่แน่ชัดว่าจะคำนึงถึงความสะดวกสะบายต่อตนเป็นหลักแน่แท้ จากผู้เขียนที่เคยได้สอบถามเพื่อน น้อง หรือพี่ นั้นได้ออกมาเป็นหลายเสียง ทั้งอยากมีรถยนต์ บ้าง อยากมีคอนโดบ้าง เพื่อตอบสนองความสะดวกสบายของชีวิต โดยสิ่งที่อยากนำเสนอคือการเปรียบเทียบระหว่าง การซื้อคอนโด หรือรถยนต์ อันไหนจะตอบโจทย์คนเมืองรุ่นใหม่กว่ากัน ซึ่งมีรายละเอียดที่อยากอธิบายคร่าวๆพร้อมบทวิเคราะห์ดังนี้ จาก ปัจจุบันปัจจัยหลายอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปตามบริบทการเจริญเติบโตของเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรุงเทพมหานคร ที่เป็นศูนย์รวมทางความเจริญ ศูนย์รวมทางธุรกิจ และอื่นๆ ทำให้เกิดการไหลของคนเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน แม้เวลาผ่านไปหลายสิบปี แต่ปัจจุบันกรุงเทพ ฯ ยังเผชิญปัญหารถติดอย่างหนัก โดยปัญหาที่มีทีท่าคลี่คลายยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจราจรที่ติดขัดที่สุด ติดอันดับหนึ่งในห้าของโลก ทำให้หนุ่มสาวหลายคน ปวดเศียรเวียนเกล้า ที่สำคัญ และนอกจากนี้ในการจราจรของกรุงเทพฯ ที่ติดขัด ปัญหาในการบำรุงรถและค่าผ่อนแต่ละคนก็เป็นปัญหา ที่สร้างความปวดใจให้แก่ใครหลายคนแน่นอน ซึ่งค่าใช้จ่ายของรถแต่ละคันสามารถชำแหละเบื้องต้นได้ว่า ค่าผ่อนรถ ค่าเช็คระยะ ค่าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ค่าพรบ ค่าประกันภัย ค่าล้างรถ ค่าทางด่วน และค่าใช้จ่ายแฝงจิปาถะ มากมาย ซึ่งถ้าลองคำนวนดีๆ อาจจะมีค่าใข้จ่ายทั้งหมดถึง 1,000,000 บาท เลย เชียว นอกจากนี้เมื่อเราขายรถ ราคารถยนต์มือสองได้ ดรอปลงอย่างรวดเร็ว เช่น เมื่อซื้อรถมาในราคา ห้าแสนบาท เมื่อขายปีที่สอง อาจจะดรอปเหลือสามแสนบาทก็ได้ ซี่งถ้าขายก็ย่อมปฎิเสธไม่ได้ว่าเข้าเนื้อตัวเองเลยทีเดียว ในทางกลับกันการตอบสนองความสะดวกสบายตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อีกทางเลือกหนึ่งคือ การซื้อคอนโด ติดเส้นทางรถไฟฟ้า โดยการซื้อคอนโดนั้นถ้าให้ลองเปรียบเทียบ ถือว่าคุ้มในระดับพอสมควร เมื่อลองคิด สมัยหนึ่งคอนโดย่านสะพานควาย ราคาห้องละไม่กี่ล้าน ตอนนี้ทะยานไม่ต่ำกว่าห้า หกล้าน5-6 ล้านบาท เพียงแค่ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพราะเนื่องจากตอบสนอง กลุ่มคนเน้นความสะดวกสบาย ทั้งการทำงาน การพบปะสังสรรค์กันในเมือง และอื่นๆ นอกจากนี้จากเคสคอนโดที่สะพานควายไป มาลองดูย่านอื่นๆโดยเปรียบเทียบว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์อย่างคอนโดจะเป็นอย่างไร อย่างเช่น คอนโดส่วนต่อขยาย บีทีเอส สายสีลม เมื่อราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1 ล้านปลายๆ ในปี 2557 แต่ปัจจุบัน ปี 2560 ราคาขยับตัวอย่างมาก โดยราคาขั้นต่ำอยู่ที่ 2 ล้าน 5แสนบาทแล้ว ในขนาดห้องเดียวกัน ลองดูตัวอย่างในเว็บ think of living ของโครงการ the tempo grand ซึ่งติด bts วุฒากาศ รีวิวราคาขณะกำลังสร้าง : https://goo.gl/Jg9bgg และราคาหลังจากสร้างเสร็จแล้วใน รีวิวได้ครับ :https://goo.gl/u8brNR นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาแม้ราคาแพงกว่ารถต่อคันแต่เมื่อเฉลี่ยในเรื่องความคุ้มค่า จะเห็นได้ว่า คอนโดมีความคุ้มค่ากว่ามาก เมื่อคำนวณราคา ตอนซื้อ สองล้านหนึ่งแสนบาท และเมื่อเวลาผ่านไป ราคาพุ่งประมาณ อย่างต่ำประมาณ แสนบาท เพราะช่วงนี้การเติบโตของคอนโดได้ทะยานขึ้นมากแต่กำลังซื้อของบุคคลทั่วไปยังไม่เทียบเท่าอุปสงค์ที่ไม่สมดุลกับอุปทาน แต่อย่างไรราคาของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อย่างคนโดก็ไม่มีวันตก และเมื่อคำนึงเราอยู่คอนโดอาศัย ในค่าใช้จ่ายแม้จะมีการผ่อนดอกส่งแบงค์ และค่าส่วนกลาง อย่างไรก็คุ้มเพราะเป็นค่าใช้จายที่ตายตัว ไม่มีค่าใช้จ่ายแฝงเมื่อเทียบกว่าค่าบำรุงรักษารถยนต์ ต่อคัน จากที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ถ้าให้ผู้เขียนเลือก จากการแตกประเด็นวิเคราะห์เปรียบเทียบระหว่าง ซื้อคอนโด หรือ ซื้อรถอันไหนดีกว่ากัน ผู้เขียนคงเลือกตอบซื้อคอนโดนะครับ เพราะที่ทำงานผู้เขียนก็อยู่ติดรถไฟฟ้า การพบปะเพื่อนต่างๆก็มักจะเป็นตามเส้นสถานีรถไฟฟ้าทั้งใต้ดินและบนดิน แต่อย่างไรก็ตามบางครั้งผู้เขียนยอมีรับว่ามีความจำเป็นในการใช้รถ เช่นการซื้ออาหารที่ผู้เขียนชอบซื้อของสดเก็บไว้ทำอาหาร หรือการไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งต่างๆก็จำเป็นในการใช้รถครับ แต่ปัจจุบัน มีตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มคนที่อาศัยอยู่คอนโด ที่เป็นบริการ Car Sharing (คารแชร์ริ่ง) บริการนี้เป็นของ Haupcar ซึ่งเป็น Car Sharing (คารแชร์ริ่ง) เจ้าแรกของเมืองไทย ซึ่งการจองรถ ใช้รถ ปลอดล็อครถ เพียงผ่าน แอพพลิเคชั่นบนมือถือ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกคนอาจจะคิดว่าบริการนี้แพงใชไหมครับแต่บอกเลยว่าไม่เพราะบริการของ Haupcar ค่าใช้จ่ายต่อครั้งได้ครอบคุลม ประกันภัยชั้นหนึ่งและน้ำมันที่คอยบริการตลอดการใข่งาน ซึ่งคิดตามการใช้งานจริง เริ่มจองได้ ตั้งแต่สามสิบนาที ครับโดยรถบริการของ Haupcar มีหลากหลายรูปแบบและมีจุดจอดตามมุมเมืองต่างๆที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของคนเมืองรุ่นใหม่ ในครั้งต่อไปที่ผู้เขียนอยากจะแชร์ว่าแคร์แชรริ่งคืออะไร เอ๊ะทำไมแตกต่างจากรถเช่า และ Sharing Economy คืออะไรที่ สำคัญอย่างไรกับผู้คนในศตวรรษยุคใหม่นี้ ครับ อ้างอิง https://www.moneyguru.co.th/blog/%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99-%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%96 http://thinkofliving.com/2013/10/12/the-tempo-grand-sathorn-wuttakard-previe/ https://www.moneyguru.co.th/blog/%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99-%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%96 https://www.ananda.co.th/condo/ideo #haupcar #condominium #car

  • แสนสิริ เปิดตัว ‘Smart Move’ แพลตฟอร์มบริการรถยนต์ไฟฟ้าระบบเช่าประจำโครงการ

    นายทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยีและวิเคราะห์ข้อมูล บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท เปิดตัว “Smart Move (สมาร์ตมูฟ)” แพลตฟอร์มบริการยานพาหนะระบบเช่าในโครงการของแสนสิริ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตให้กับคนรุ่นใหม่ นำร่องด้วยบริการรถยนต์ไฟฟ้าระบบเช่า (EV-Car Sharing) ให้กับลูกบ้านในโครงการที่พักอาศัยครั้งแรกของประเทศไทย โดยจับมือ SHARGE (ชาร์จ) บริษัทผู้ให้บริการเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำและ Haupcar (ฮอปคาร์) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มและให้บริการคาร์แชร์ริ่งเจ้าแรกของไทยเข้ามาเป็นพันธมิตรในการบริหารระบบจัดการการจองและปล่อยเช่ารถในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะสำหรับลูกบ้านในโครงการ “การให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าระบบเช่าภายใต้แพลตฟอร์ม Smart Move ในครั้งนี้นับเป็นการให้บริการรถยนต์ไฟฟ้าครั้งแรกในโครงการที่อยู่อาศัยของเมืองไทย มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดี เพราะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเดินทางของคนรุ่นใหม่ที่อาศัยอยู่ในโครงการคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี เพราะคนกลุ่มนี้ไม่นิยมซื้อรถยนต์เป็นของตัวเอง แต่ใช้ระบบขนส่งมวลชนที่ปัจจุบันมีโครงข่ายที่ครอบคลุมและสะดวกสบาย โดยการมีรถยนต์ไฟฟ้าระบบเช่าให้บริการที่โครงการที่อยู่อาศัยจะช่วยเติมเต็มความต้องการในการเดินทางของลูกค้าในบางวัตถุประสงค์ได้ครอบคลุมมากขึ้น” สำหรับการให้บริการ Smart Move รถยนต์ไฟฟ้าระบบเช่าของแสนสิริจะนำร่องที่โครงการ เดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต โดยเราเลือกรถยนต์ BMWi3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (Fully Electric) รุ่นแรกจาก BMW จำนวน 2 คัน มาให้บริการเช่าในโครงการ และเพื่อให้การบริหารจัดการระบบเช่ารถยนต์ส่วนกลางเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุ จึงจับมือกับพันธมิตรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะคือ Haupcar ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มและให้บริการคาร์แชร์ริ่งแรกของไทยที่มีประสบการณ์การให้บริการเช่ารถผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือตลอด 24 ชม. มาเป็นเวลากว่า 2 ปี และ SHARGE ผู้ให้บริการเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและมีประสบการณ์ด้านการขายและซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้ามาเป็นผู้บริหารหลัก ที่มา: https://www.khaosod.co.th/economics/news_525222 #24hours #carsharing #eletricvehicle

bottom of page