การก่อหนี้ไม่ใช่สิ่งไม่ดี ถ้าหนี้ก้อนนั้นเป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ แต่ถ้าเป็นหนี้ประเภทเพื่อการบริโภคที่ไม่เกิดรายได้ ประกอบกับผู้เป็นหนี้ล้มเหลวในเรื่องแผนการเงินที่ดี มันก็จะกลายเป็นปัญหานี้เกินตัวในที่สุด
จากข้อมูลเชิงเศรษฐกิจ พบว่า... คนไทยเป็นหนี้เร็วขึ้น เยอะขึ้น และนานขึ้น หมายถึง คนไทยเริ่มก่อหนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย มีหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบจำนวนสูงขึ้นจากในอดีต และไม่สามารถชำระหนี้ได้หมด แม้ว่าอายุย่างเข้าสู่วัยเกษียณแล้วก็ตาม โดยเฉพาะหนี้รถยนต์ที่สร้างภาระให้กลุ่มคนรุ่นใหม่วัยเริ่มทำงาน
ปัจจุบัน ประเทศไทยติดอันดับหนี้ในครัวเรือนสูงเป็นอันดับที่ 2 ของภูมิภาคเอเชีย เป็นรองแค่เกาหลีใต้เท่านั้น โดยหนี้ครัวเรือนของคนไทยอยู่ที่ระดับ 78.7% ของ GDP (Gross Domestic Product: ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) เกิดจากการที่ภาคธุรกิจพยายามกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยหรือก่อหนี้จนเกินความจำเป็น ทำให้คนไทยเป็นหนี้เร็วขึ้น เป็นหนี้มากขึ้น และเป็นหนี้ยาวขึ้น
ในปี 2560 คนไทยมีหนี้เสียที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เฉลี่ย 1.5 แสนบาทต่อคน เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อเทียบจากเมื่อปี 2553 ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 7 หมื่นบาทต่อคน ยังไม่นับรวมหนี้นอกระบบ หนี้ กยศ. และหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ เป็นตัวเลขที่ธนาคารแห่งประเทศไทยถึงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากคนไทยติดกับดักหนี้สินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และเมื่อมองลึกลงไปกว่านั้น ตัวเลขของผู้ที่ค้างชำระหนี้เกินกำหนดก็มีจำนวนมากขึ้นเช่นกัน คนไทยมีหนี้เสียประมาณ 3 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 15.9% ของจำนวณผู้เป็นหนี้ทั้งหมด 21 ล้านคน แสดงให้เห็นว่ามีคนกลุ่มใหญ่ๆที่ใช้จ่ายเกินตัว เป็นที่น่าหนักใจกว่านั้น ช่วงอายุของผู้เป็นหนี้คือวัยเริ่มทำงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ
งานวิจัยของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เผยแพร่เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2562 พบว่า คนไทยเป็นหนี้เร็วขึ้น และเป็นหนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย บางส่วนเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณก็ยังเป็นหนี้อยู่ กว่าครึ่งหนึ่งของคนเป็นหนี้คือวัยเริ่มทำงานช่วง 25 - 35 ปี โดยเป็นหนี้เพื่อการบริโภคและบัตรเครดิต ซึ่งเป็นหนี้เสียไม่ก่อให้เกิดรายได้ ทำให้คนกลุ่มนี้ตั้งตัวได้ยาก
สินเชื่อรถยนต์-สินเชื่อที่อยู่อาศัย-สินเชื่อบัตรเครดิต ยังคงเติบโตสูงขึ้นมากในไตรมาส 2/2562
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยทำให้เห็นว่า หนี้ที่ผิดนัดชำระยังอยู่ในระดับที่สูงจนน่าเป็นห่วง โดยที่อันดับหนึ่งคือสินเชื่อรถยนต์ 9.12% รองลงมาคือสินเชื่อที่อยู่อาศัย 5.12% และสินเชื่อบัตรเครดิต 4.39% ซึ่งสินเชื่อที่ค้างชำระเยอะสุดอย่างรถยนต์เป็นหนี้สินประเภทไม่ก่อให้เกิดรายได้ ถ้าหากขาดการวางแผนการเงินที่ดี ก็จะอยู่ในวังวนหนี้สินไม่จบไม่สิ้น
ฮ้อปคาร์ บริการคาร์แชร์ริ่ง เช่ารถใกล้ตัวรายชั่วโมง โดยไม่มีค่ามัดจำ เป็นหนึ่งในหนทางที่ช่วยลดภาระหนี้สินในครัวเรือนได้ คือ แทนที่จะเป็นหนี้รถยนต์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ก็เปลี่ยนมาใช้บริการคาร์แชร์ริ่งแทน ทำให้คุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ในทุกการเดินทาง ใช้เท่าไรจ่ายเท่านั้น ไม่ต้องซื้อให้เป็นภาระในช่วงตั้งตัว แล้วไปกู้ซื้อทำธุรกิจหรือเป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้อื่นๆ ดีกว่า
คนไทยติดกับดักหนี้สิน ซื้อรถก่อนซื้อบ้าน เป็นภาระในช่วงตั้งตัว ในเมื่อชีวิตในเมืองกรุงยังจำเป็นต้องใช้รถยนต์ แต่การกู้ซื้อรถก็เป็นภาระที่ทำให้กลุ่มคนวัยเริ่มทำงานไม่สามารถตั้งตัวได้เสียที เงินเดือนก็น้อย ภาระดันมีมาก เพราะมูลค่าของรถยนต์จะมีแต่ลดลงตามอายุการใช้งาน ฮ้อปคาร์ สนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ลงทุนสร้างรายได้ ด้วยการให้บริการคาร์แชร์ริ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทาง แล้วให้คนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนชีวิตได้อย่างอิสระ รับภาระเฉพาะหนี้ดีที่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น หนี้เพื่อการลงทุน หนี้ผ่อนอสังหาฯ หนี้เพื่อการศึกษา เป็นต้น
สำหรับใครที่อยากมีรถใช้โดยไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องผ่อนและเป็นหนี้ สามารถใช้รถฮ้อปคาร์ได้ -------------------------------------------------------------- ดาวน์โหลดแอป : https://app.haupcar.com/getapp สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Line : @haupcar หรือคลิก http://bit.ly/LineAtHaupcar
#Carsharing #คาร์แชร์ริ่ง #EVcar #อีวีคาร์ #รถยนต์ไฟฟ้า #รถยนต์พลังงานไฟฟ้า #ฮ้อปคาร์ #รถเช่าติดรถไฟฟ้า #รถเช่ากรุงเทพ #รถเช่าเชียงใหม่ #รถเช่า24ชั่วโมง #รถเช่า24ชม #รถเช่ารายชั่วโมง #รถเช่ารายวัน #เทศกาลไหนก็ใช้ฮ้อป #มีรถใช้ไม่ต้องซื้อ #ชีวิตที่เลือกได้ #ทางเลือกใหม่ในการเดินทาง #รถเช่าสนามบิน #รถเช่าด่วน #รถเช่าทันที #รถเช่าใกล้ฉัน
Comentarios