
Nissan Leaf เจเนอเรชัน 3 เปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่สู่รถครอสโอเวอร์ไฟฟ้า วิ่งไกลกว่า 600 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง มาพร้อมดีไซน์ใหม่ “Timeless Japanese Futurism” และเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะจาก Nissan
Nissan Leaf รุ่นใหม่เจเนอเรชัน 3 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ – วิ่งได้ไกลกว่า 600 กม.
Nissan Motor ประกาศเปิดตัว Leaf รุ่นใหม่เจเนอเรชันที่ 3 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 โดยเตรียมเริ่มวางจำหน่ายใน สหรัฐฯ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2025 และจะทยอยเปิดตัวในภูมิภาคอื่นในลำดับต่อไป รถรุ่นใหม่นี้จะผลิตที่ โรงงานโทจิกิ (ญี่ปุ่น) และ ซันเดอร์แลนด์ (สหราชอาณาจักร)



🔋 ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าใหม่แบบ 3-in-1 EV Powertrain
Nissan Leaf รุ่นใหม่ พัฒนาโดยใช้ประสบการณ์จาก EV รุ่นก่อนหน้า พร้อมติดตั้งระบบขับเคลื่อนใหม่แบบ 3-in-1 EV Powertrain ที่รวมมอเตอร์ อินเวอร์เตอร์ และเกียร์ลดรอบเข้าด้วยกันในชุดเดียว เพื่อลดขนาดและน้ำหนักลงจากรุ่นเดิม พร้อมปรับปรุงความเงียบและความราบรื่นในการขับขี่
มีให้เลือก 2 รุ่นย่อยตามขนาดแบตเตอรี่
รุ่นมาตรฐาน ความจุแบตเตอรี่ (ใช้ได้จริง) 52.9 kWh กำลังสูงสุด 130 kW แรงบิดสูงสุด 345 Nm
รุ่นสูงสุด ความจุแบตเตอรี่ (ใช้ได้จริง) 75.1 kWh กำลังสูงสุด 160 kW แรงบิดสูงสุด 355 Nm
รุ่นแบตเตอรี่ใหญ่สามารถวิ่งได้ไกล 303 ไมล์ (มาตรฐาน EPA) หรือ กว่า 600 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTC ญี่ปุ่น/ยุโรป) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สำหรับระบบชาร์จเร็ว รุ่นอเมริกาเหนือใช้หัวชาร์จ NACSส่วนตลาดญี่ปุ่นใช้ CHAdeMO และตลาดยุโรปใช้ CCS
🚘 ดีไซน์ใหม่แนวครอสโอเวอร์ “Timeless Japanese Futurism”
Leaf รุ่นใหม่เปลี่ยนจากรถแฮทช์แบ็กสู่ สไตล์ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบโดยนำแนวคิด “Timeless Japanese Futurism” ซึ่งใช้ในรุ่น Ariya มาปรับให้ร่วมสมัยยิ่งขึ้น
ขนาดตัวถัง (ญี่ปุ่น): 4,360 × 1,810 × 1,550 มม.
ระยะฐานล้อ: 2,690 มม.
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.26 (ยุโรป 0.25)
เส้นสายภายนอกเน้นความเรียบและลื่นไหลแบบรถ EV กระจังหน้าแบบปิด (Grilleless Design), มือจับประตูแบบเรียบ Flush Door Handle พร้อมดีไซน์ไฟหน้า Signature Lamp แบบ 6 ช่องสี่เหลี่ยม และไฟท้าย Holographic Combination Lamp ที่สะท้อนแนวคิด “Digital Zen” ให้มิติแสงและเงาเปลี่ยนไปตามมุมมอง
นอกจากนี้ เส้นโครเมียมด้านข้างยังได้รับแรงบันดาลใจจาก ดาบคาตานะ (Katana) สื่อถึงเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นที่ผสานกับความล้ำสมัยทางเทคโนโลยี



🏡 ห้องโดยสารใหม่ พร้อมดีไซน์สไตล์มินิมอล
ภายในห้องโดยสารออกแบบบนแพลตฟอร์ม CMF-EV ให้พื้นห้องโดยสารเรียบ เพิ่มพื้นที่ช่วงขาและความโปร่งโล่ง แผงคอนโซลแบบ Floating Design เพิ่มความหรูหราเรียบง่าย และติดตั้งหน้าจอคู่แบบ Dual Display ขนาด 12.3 นิ้ว + 14.3 นิ้ว พร้อมระบบ Nissan Connect รุ่นใหม่ล่าสุด ที่รองรับ
Google Built-in
Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย
การเชื่อมต่อ Wi-Fi ภายในรถ
ระบบเสียง Bose Personal Plus (10 ลำโพง)

🌤 หลังคากระจกปรับแสงอัจฉริยะ (Smart Dimming Glass Roof)
อีกหนึ่งไฮไลต์คือหลังคากระจกพาโนรามาแบบ ปรับความโปร่งแสงด้วยระบบไฟฟ้า ผู้ขับสามารถกดปุ่มเลือกโหมดได้หลายระดับ ทั้งโปร่งใส หรือกรองแสงแบบ “ฟูลชี้ด” ตัวกระจกยังเคลือบสารป้องกันรังสีอินฟราเรด เพื่อช่วยลดความร้อนในห้องโดยสาร
⚙️ สมรรถนะและช่วงล่างพัฒนาใหม่
ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบ MacPherson Strut และด้านหลังแบบ Multi-Link Suspension ให้ความมั่นคงและความนุ่มนวลที่ดีกว่ารุ่นเดิม โดย Nissan ระบุว่าความแข็งแรงในแนวขวางของตัวถังเพิ่มขึ้นถึง 66%


🧭 ระบบช่วยขับขั้นสูง ProPILOT Assist
Leaf รุ่นใหม่มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะของ Nissan เช่น
Intelligent Distance Control – ช่วยเบรกนุ่มนวลตามรถคันหน้า
Intelligent Around View Monitor (3D View)
Front Wide View / Invisible Hood View – มองเห็นจุดอับด้านหน้า
สำหรับตลาดญี่ปุ่นจะมีให้เลือกทั้ง ProPILOT 1.0 และ ProPILOT 2.0ช่วยควบคุมความเร็วและพวงมาลัยบนทางหลวงได้อย่างปลอดภัย

⚡ ฟังก์ชันจ่ายไฟ V2L และ V2H
Nissan Leaf รุ่นใหม่ รองรับระบบจ่ายไฟออกจากตัวรถ (Vehicle-to-Load) โดยในรุ่นอเมริกามีช่องต่อไฟ 120 V ทั้งภายในห้องโดยสารและห้องเก็บของ สามารถจ่ายไฟสูงสุดประมาณ 1,500 W สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้ากลางแจ้ง เช่น เตาไฟฟ้า หรือโน้ตบุ๊ก
ส่วนตลาดญี่ปุ่นยังคงรองรับระบบ V2H (Vehicle-to-Home) เพื่อจ่ายไฟกลับสู่บ้านหรือเก็บพลังงานจากโซลาร์เซลล์

Nissan Leaf เจเนอเรชันที่ 3
คือการรีเฟรชครั้งสำคัญของรถ EV ที่เป็นตำนานของแบรนด์ Nissan ด้วยดีไซน์ครอสโอเวอร์ล้ำอนาคต วิ่งไกลกว่า 600 กม. และเทคโนโลยีช่วยขับที่ก้าวล้ำกว่าเดิม เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มองหา EV ที่ขับง่าย ประหยัดพลังงาน และสะท้อนความเป็นญี่ปุ่นสมัยใหม่อย่างแท้จริง
ที่มา: https://car.watch.impress.co.jp/docs/news/2022775.html
