จีนประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ เตรียมผลักดันยานยนต์บินได้ (eVTOL) กว่าแสนคัน ภายในปี 2030 ใช้เป็นแท็กซี่อากาศและยานพาหนะส่วนบุคคล พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับเต็มรูปแบบ

ประเทศจีนเดินหน้าสู่ยุคใหม่แห่งการเดินทางด้วยการตั้งเป้าให้มี ยานยนต์บินขึ้น-ลงทางดิ่งแบบไฟฟ้า (Electric Vertical Take-Off and Landing หรือ eVTOL) มากถึง 100,000 ลำภายในปี 2030 โดยจะใช้ทั้งในรูปแบบ Air Taxi และ ยานยนต์ส่วนบุคคล ตามรายงานจาก China Low Altitude Economic Alliance
ทำไมตัวเลข 100,000 คันถึงเป็นไปได้?
เบื้องหลังตัวเลขนี้คือแนวโน้ม “การผลิตในระดับอุตสาหกรรม” ที่จะทำให้ต้นทุนของ eVTOL ลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับรถยนต์ไฟฟ้าในอดีต การเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป โดยเฉพาะในประเทศที่มีระบบนิเวศด้านการผลิตและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแบบบูรณาการอย่างจีน

เมืองใหญ่จะมีเครือข่าย “ท่าอากาศยานความสูงต่ำ”
ไม่เพียงแค่ตัวเครื่องบินเท่านั้นที่ต้องพร้อม รายงานยังระบุว่า ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า เมืองหลักของจีนจะมีเครือข่ายขนส่งทางอากาศและสถานีบริการภาคพื้นดิน สำหรับยานยนต์บินได้โดยเฉพาะ ทั้งนี้จะมีเทคโนโลยีสนับสนุนอย่าง AI, การปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และคอมพิวเตอร์ (Human computer interaction: HCI) , และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลบนท้องฟ้า (Digital road infrastructure service networks) ทำให้เกิดความปลอดภัยและการใช้งานที่ราบรื่นยิ่งขึ้น


โดรนไม่ใช่แค่ของเล่นอีกต่อไป
ในขณะที่ eVTOL กำลังมาแรง “โดรน” ก็ยังคงเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีบทบาทในหลากหลายภาคส่วน เช่น โลจิสติกส์ เกษตรกรรม กู้ภัย การจัดการเมือง และการท่องเที่ยว รายงานถึงกับใช้คำว่า “ubiquitous” หรือ “จะพบได้ทุกที่” เพื่ออธิบายภาพในอนาคต
องค์กรที่อยู่เบื้องหลังความเปลี่ยนแปลง
China Low Altitude Economic Alliance ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2024 ที่ผ่านมาโดยความร่วมมือของบริษัทกว่า 100 ราย จุดประสงค์หลักคือการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับความสูงต่ำ และวางรากฐานให้การเดินทางทางอากาศกลายเป็นเรื่องของชีวิตประจำวันในอนาคต
อนาคตของการเดินทาง ไม่ได้มีแค่บนถนน แต่กำลังจะขยายขึ้นไปบนท้องฟ้า
ที่มา: chinadaily
