
BMW เปิดเกมรุกเต็มกำลังในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม พร้อมปล่อย i3 รุ่นใหม่ บนแพลตฟอร์ม Neue Klasse ที่มาพร้อมแบตเตอรี่รุ่นล่าสุด แรงกว่า วิ่งไกลกว่า และชาร์จไวกว่า Tesla
ยืนยันแล้ว: BMW i3 รุ่นใหม่ไม่ใช่ Hatchback อีกต่อไป
BMW กำลังพัฒนารุ่น i3 เจเนอเรชันใหม่ ที่จะเปิดตัวในฐานะ รถซีดานไฟฟ้าล้วน โดยไม่เกี่ยวข้องกับรุ่นแฮทช์แบ็คที่ใช้คาร์บอนไฟเบอร์แบบเดิมอีกต่อไป รถรุ่นนี้จะถูกสร้างบนแพลตฟอร์ม Neue Klasse ที่ออกแบบมาเพื่อ EV โดยเฉพาะ และมีกำหนดเริ่มการผลิตที่โรงงานมิวนิกในเดือนกรกฎาคม 2026 ก่อนจะวางขายช่วงต้นปี 2027

เทียบกันรุ่นต่อรุ่น ชน Tesla แบบไม่เกรงใจ
รุ่นท็อปอย่าง BMW i3 M60 xDrive คาดว่าจะให้กำลังสูงถึง 630 แรงม้า ซึ่งมากกว่า Tesla Model 3 Performance ที่อยู่ที่ 510 แรงม้า และแน่นอนว่ามาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบมอเตอร์คู่เช่นกัน
ในขณะที่รุ่นรองลงมาอย่าง i3 40, i3 50 หรือ i3 50 xDrive จะมุ่งเน้นการใช้งานประจำวันและประสิทธิภาพพลังงานที่ดีกว่า เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้รถทั่วไปที่ต้องการ EV สมดุลทั้งกำลังและการประหยัด


เทคโนโลยีแบตเตอรี่ Gen6: วิ่งไกลขึ้น 25% ชาร์จเร็วขึ้นกว่าเดิม
BMW i3 ใหม่จะเลิกใช้เทคโนโลยี Gen5 แบบเดิม และหันมาใช้ แบตเตอรี่ Gen6 แบบเซลล์ทรงกระบอก ซึ่งมีความหนาแน่นพลังงานสูงกว่า 20% และช่วยให้วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 25% โดย i3 50 คาดว่าจะมีระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 900 กิโลเมตร (WLTP) ซึ่งเหนือกว่า Model 3 Long Range ที่ทำได้ 580 กิโลเมตรอย่างชัดเจน
ชาร์จไวใน 10 นาที ได้ระยะทางถึง 350 กม.
BMW ยังยกระดับความเร็วในการชาร์จ โดยรองรับ DC Fast Charging สูงสุด 300–400 kW ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเพิ่มระยะทางได้ 350 กม. ภายในเวลาเพียง 10 นาที ขณะที่ Tesla Supercharger ที่แรงสูงสุด 250 kW จะเติมได้ประมาณ 280 กม. ใน 15 นาที
รองรับหัวชาร์จ NACS ใช้เครือข่าย Supercharger ได้
BMW ได้ประกาศใช้ หัวชาร์จแบบ NACS (North American Charging Standard) กับรถยนต์ Neue Klasse ทุกคัน รวมถึง i3 ด้วย ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง สถานีชาร์จ Supercharger ของ Tesla ได้มากกว่า 12,000 แห่ง ทั่วอเมริกาเหนือ


ราคาราว 50,000 ดอลลาร์ แต่ฟีเจอร์ต้องชน Tesla ให้ได้
แม้ยังไม่มีการยืนยันราคาจากทาง BMW แต่คาดว่า i3 ใหม่จะเริ่มต้นที่ราว 50,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.8 ล้านบาท) เพื่อเข้าสู่ตลาดเดียวกับ Tesla Model 3 ซึ่งจุดแข็งของ BMW อยู่ที่ “สมรรถนะ + ความหรู + เทคโนโลยีแบตเตอรี่ล้ำยุค”
แต่ในอีกด้านหนึ่ง BMW ยังต้องพัฒนา UI และระบบซอฟต์แวร์ให้ดีพอจะสู้ Tesla โดยเฉพาะฟีเจอร์อัปเดตผ่าน OTA และระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ที่ยังเป็นจุดขายหลักของ Tesla มาจนถึงทุกวันนี้



BMW i3 2027 คือคู่แข่งที่ Tesla ควรจับตามอง
หาก BMW ทำได้ตามที่วางแผนไว้ ทั้งเรื่องแบตเตอรี่ Gen6, ความแรง, ระยะทางขับขี่, ความเร็วในการชาร์จ และการรองรับ Supercharger... ก็มีโอกาสสูงมากที่ BMW i3 ใหม่จะกลายเป็น EV ซีดานพรีเมียมอันดับต้นๆ ที่คนวัยทำงานเลือกแทน Tesla Model 3
หากคุณกำลังรอดู EV ซีดานรุ่นใหม่ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า บอกเลยว่า BMW i3 เวอร์ชัน 2027 คือตัวเต็งที่ไม่ควรมองข้าม
ที่มา: newatlas.com, BMW
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
