หน่วยงานกำกับดูแลของจีนเตรียมออกข้อบังคับห้ามใช้ มือจับประตูแบบซ่อน (Retractable Door Handle) ในรถยนต์ใหม่ เริ่มมีผลบังคับใช้ปี 2027 หลังพบว่าดีไซน์นี้แม้จะดูทันสมัยและช่วยเรื่องอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) เพียงเล็กน้อย แต่กลับสร้างปัญหาด้านความปลอดภัย ความทนทาน และเพิ่มต้นทุนซ่อมบำรุง ส่งผลให้หลายค่ายรถต้องเร่งหาทางเลือกใหม่ที่ปลอดภัยกว่า

จีนเตรียมแบนมือจับประตูแบบซ่อนเข้า-ออกอัตโนมัติ ชี้เสี่ยงอันตรายและไม่คุ้มค่า
รายงานล่าสุดเผย หน่วยงานกำกับดูแลยานยนต์ของจีนกำลังพิจารณาออกข้อบังคับ ห้ามใช้มือจับประตูแบบ Retractable (ซ่อนเข้า-ออกได้เต็มรูปแบบ) ในรถยนต์ใหม่ทุกประเภท โดยเฉพาะกลุ่ม รถพลังงานใหม่ (NEVs) ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากพบปัญหาด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในการใช้งานจริง
สาเหตุที่จีนมุ่งแบนมือจับประตูแบบ Retractable
ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน ระบุว่า กำลังมีการหารือร่างข้อกำหนดใหม่ซึ่งจะห้ามใช้มือจับแบบซ่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ขณะที่ มือจับกึ่งซ่อนและมือจับแบบดั้งเดิม ยังสามารถใช้งานได้ แต่ต้องมี ระบบสำรองเชิงกล (mechanical redundancy) เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถเปิดใช้งานได้ทุกกรณี
ร่างมาตรฐานดังกล่าวคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน 2025 และจะมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบตั้งแต่ กรกฎาคม 2027 โดยให้ระยะเวลาผ่อนผันหนึ่งปี

ทำไมมือจับซ่อนถึงถูกมองว่าไม่ปลอดภัย
แม้จะถูกโปรโมตว่า ช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านลม (Cd) และเสริมภาพลักษณ์ล้ำสมัย แต่ผลการวิจัยกลับพบว่า
การลด Cd อยู่เพียง 0.005–0.01 เท่านั้น ต่ำกว่าค่า 0.03 ที่หลายค่ายเคยอ้างไว้
ประโยชน์ด้านการประหยัดพลังงานแทบไม่มีนัยสำคัญ คิดเป็นเพียง 0.6 kWh ต่อ 100 กม.
น้ำหนักเพิ่มขึ้นราว 7–8 กิโลกรัม จากมอเตอร์และโครงสร้างกลไก ทำให้ประสิทธิภาพรวมแทบไม่ต่าง
ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบปัญหาหนักด้าน ความปลอดภัยและความทนทาน เช่น
ค่าใช้จ่ายสูงกว่า 3 เท่า แต่มีอัตราขัดข้องมากกว่า 8 เท่า เมื่อเทียบกับมือจับกลไก
มีรายงานว่า 12% ของปัญหาซ่อมแซม NEVs เกี่ยวข้องกับมือจับประตู
กรณีฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้หรือไฟฟ้าขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถเปิดประตูได้
เหตุการณ์จริง เช่น กรณีมือจับแข็งตัวจากน้ำแข็งในฉางชุนปี 2024 หรือ รถจมน้ำช่วงน้ำท่วมกวางตุ้ง ทำให้ผู้โดยสารติดอยู่ในรถ
สถิติจาก NAIS ระบุว่าอุบัติเหตุจากความล้มเหลวของมือจับเพิ่มขึ้นถึง 47% ในปี 2024 และ 82% ของกรณีเกี่ยวข้องกับมือจับซ่อน
ปัญหากับผู้ใช้ เช่น เด็กถูกหนีบนิ้ว เพิ่มขึ้นถึง 132%
ทิศทางของค่ายรถและทางเลือกใหม่
ผู้ผลิตหลายรายเริ่มทบทวนแนวทางการออกแบบ เช่น
Volkswagen ยังคงใช้มือจับกึ่งซ่อน (semi-retractable) ที่มีความสมดุลระหว่างความสวยงามและความปลอดภัย
FAW-Audi ใช้มือจับกึ่งซ่อนพร้อมระบบเชือกดึงสีแดง เมื่อเกิดอุบัติเหตุสามารถเปิดได้จากภายนอก
Wei Jianjun ประธาน Great Wall Motor ออกโรงวิจารณ์ว่ามือจับซ่อน “ไร้ประโยชน์ด้านอากาศพลศาสตร์ หนัก เสียงดัง และอันตราย”

การกำกับดูแลที่เข้มขึ้นในระดับโลก
การเคลื่อนไหวของจีนถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับมาตรฐานด้านความปลอดภัย โดยใน พฤษภาคม 2025 กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) ของจีนได้เริ่มแก้ไขมาตรฐานเกี่ยวกับมือจับประตูแล้ว
ขณะเดียวกัน ในยุโรป Euro NCAP ก็ประกาศว่า ตั้งแต่ปี 2026 หากรถยนต์ย้ายฟังก์ชันสำคัญ เช่น ไฟเลี้ยว ไฟฉุกเฉิน แตร ที่ปัดน้ำฝน และระบบ SOS ไปอยู่บนจอทัชสกรีนโดยไม่มีปุ่มกายภาพ จะไม่ได้รับเรตติ้งความปลอดภัยระดับ 5 ดาว
จุดสิ้นสุดของ Retractable Door Handle
การพิจารณาแบนมือจับประตูแบบซ่อนของจีนสะท้อนให้เห็นถึง การสิ้นสุดของเทรนด์ดีไซน์ที่ไม่ตอบโจทย์การใช้งานจริงแม้จะดูสวยงามและทันสมัย แต่เมื่อชั่งน้ำหนักระหว่างความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และต้นทุนแล้ว อุตสาหกรรมยานยนต์อาจต้องกลับมาทบทวนว่า ความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารสำคัญกว่าภาพลักษณ์ทางดีไซน์
ที่มา: carnewschina.com
หากจะนึกถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประตูเปิดปิดแบบซ่อน (Retractable Door Handle) ก็ต้องนึกถึงแบรนด์รถยนต์ระดับโลกอย่าง Tesla เป็นอันดับแรก และแน่นอนว่าในแอปฮ้อป (HAUP) ก็มีรถเทสล่าเลือกเช่าแน่นอน โดยเป็นรถยนต์จากบุคคลทั่วไป 100% สนใจให้เช่าผ่านแพลตฟอร์มฮ้อป แค่โหลด HAUP App แล้วกดจองออนไลน์ได้เลย
เช่ารถ Tesla Model Y ในกรุงเทพ

เช่ารถ Tesla Model 3 ในกรุงเทพ
