อัพเดตข่าวสารการเดินทาง นั่งรถไฟไปลาว บางซื่อ-เวียงจันทร์ เตรียมเปิดให้บริการกรกฎาคม 2567
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมเปิดขบวนการเดินรถไฟระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - เวียงจันทน์(คำสะหวาด) หรือเส้นทาง บางซื่อ - เวียงจันทน์ ที่มีกำหนดเปิดให้บริการเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม 2567 นี้
โดยโครงการรถไฟเส้นทางนี้เป็นการขยายความร่วมมือในการเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชน และขนส่งสินค้าของทั้งสองประเทศ ตลอดจนยกระดับระบบโลจิสติกส์ของภูมิภาค โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางตามนโยบาย IGNITE THAILAND ของรัฐบาล
โดยการรถไฟฯ กับรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาวได้มุ่งเน้นประเด็นหารือใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่
1. แผนการเปิดเดินรถระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - อุดรธานี - หนองคาย - เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) รวมถึงแผนการทดลองเดินรถเสมือนจริง ซึ่งกำหนดไว้ในระหว่างวันที่ 13 -14 กรกฎาคม 2567
2. แผนพัฒนาตลาดด้านการท่องเที่ยว การเดินทางที่สะดวก เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างหนึ่ง
3. แผนการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ เป็นโปรโมทขบวนเดินรถไฟ และกระจายข่าวสารการเดินทางให้ทั่วถึงคนทุกกลุ่ม
4. การเพิ่มศักยภาพด้านการขนส่งสินค้าระหว่าง ไทย - ลาว - จีน โดยกำหนดให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วม เพื่อหารือด้านการขนส่งสินค้าข้ามแดน - ผ่านแดนระหว่างประเทศ ซึ่งการรถไฟฯ ได้ให้ความช่วยเหลือในการให้ความรู้ในการฝึกอบรมแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาวในด้านปฏิบัติการเดินรถมาโดยตลอด ทั้งด้านพนักงานขับรถ พนักงานประจำสถานี และพนักงานขายตั๋ว
นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังได้ร่วมมือกัน ทำการทดลองและทดสอบการเดินขบวนรถไฟระหว่างสถานีอุดรธานี - สถานีหนองคาย - สถานีท่านาแล้ง แล้วเสร็จ โดยผลการทดสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอุปสรรคในการเดินรถใดๆ
ส่งผลให้การเปิดเดินขบวนรถระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - อุดรธานี - หนองคาย - เวียงจันทน์(คำสะหวาด) ในครั้งนี้ จึงนับเป็นการขยายความร่วมมือครั้งสำคัญของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว
รวมถึงความสะดวกในการสามารถรับ-ส่งผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบิน มาลงยังสนามบินอุดรธานี เพื่อเดินทางต่อเข้าไปนครหลวงเวียงจันทน์ได้ โดยไม่ต้องต่อรถโดยสารอื่น ซึ่งเป็นการยกระดับระบบโลจิสติกส์ของทั้งสองประเทศ สอดคล้องกับนโยบาย IGNITE THAILAND ของรัฐบาลที่ต้องการขับเคลื่อนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และโลจิสติสก์ของภูมิภาคอีกด้วย
อัพเดตข่าวสารเพิ่มเติมกับ HAUP ได้ที่ Facebook : HAUP